ประวัติ หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน เกจิดังนักปฏิบัติ พระเครื่องยอดนิยม พุทธคุณเลื่องชื่อรอบด้าน

Home » ประวัติ หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน เกจิดังนักปฏิบัติ พระเครื่องยอดนิยม พุทธคุณเลื่องชื่อรอบด้าน
ประวัติ หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน เกจิดังนักปฏิบัติ พระเครื่องยอดนิยม พุทธคุณเลื่องชื่อรอบด้าน

ประวัติ หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน เกจิดังนักปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เมตตาสูง ผู้สร้างพระเครื่องยอดนิยม หายาก พุทธคุณเลื่องชื่อรอบด้าน

อินฺทสโรภิกฺขุ (ไข่) หรือที่รู้จักกันดีในหมู่นักสะสมพระเครื่องว่า หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน ภูมิลำเนาเป็นชาวแปดริ้ว เกิดที่ตำบลท่าไข่ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2400 โยมบิดาชื่อกล่อม โยมมารดาชื่อบัว เมื่อท่านอายุได้ 6 ขวบโยมบิดาได้นำท่านไปฝากกับหลวงพ่อปาน วัดโสธรฯ เพื่อให้เรียนหนังสือ ต่อมาจึงได้บวชเป็นสามเณร และได้ฝึกหัดเทศน์จนมีชื่อเสียงในทางเทศน์มหาชาติ

เมื่อหลวงพ่อปานมรณภาพลงหลวงปู่ไข่จึงได้เดินทางไปอยู่กับพระอาจารย์จวง วัดน้อย อำเภอพนัสนิคม ชลบุรี จนท่านอายุได้ 15 ปี พระอาจารย์จวงก็มรณภาพลง ท่านจึงเดินทางมาจำพรรษาอยู่ที่วัดหงษ์รัตนาราม บางกอกใหญ่ เรียนพระปริยัติธรรมอยู่ 3 ปี แล้วจึงย้ายไปอยู่กับพระอาจารย์เอี่ยม วัดลัดด่าน สมุทรสงคราม

สามเณรไข่ในตอนนั้น ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรมจนอายุครบบวช จึงได้อุปสมบทที่วัดลัดด่าน โดยมี พระอาจารย์เนตร วัดบ้านแหลม เมืองสมุทรสงคราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เอี่ยม วัดลัดด่าน เมืองสมุทรสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ภู่ วัดบางกะพ้อม เมืองสมุทรสงคราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากนั้นท่านก็ได้ไปเรียน วิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์รูปหนึ่งที่ จังหวัดกาญจนบุรี แล้วจึงกลับมาอยู่ที่วัดลัดด่านอีกครั้งหนึ่ง

หลวงปู่ไข่ท่านออกธุดงค์เป็นประจำทุกปี ท่านออกธุดงค์อยู่ได้ 15 ปี เวลาท่านธุดงค์ผ่านไปทางใด ถ้ามีผู้คนทุกข์ยากหรือเจ็บไข้ได้ป่วยท่านก็ช่วยรักษาให้หายโดยตลอด เกียรติคุณของท่านก็เป็นที่รู้จักจนมาถึงกรุงเทพฯ จึงมีผู้มานิมนต์ท่านให้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดบางยี่เรือ 1 พรรษา แล้วท่านก็ออกธุดงค์ไปในป่าอีก

ต่อมาท่านจึงได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ และเห็นว่าวัดบพิตรพิมุข (วัดเชิงเลน) เป็นวัดที่เงียบสงบดี จึงได้เข้ามาจำพรรษาอยู่ที่วัดบพิตรพิมุขตลอดมา ระหว่างที่ท่านอยู่ที่วัดนี้ท่านก็ได้สอนพระกรรมฐานแก่พระภิกษุสามเณรและ ฆราวาสเสมอมา นอกจากนี้ ก็ได้ช่วยรักษาผู้ที่ป่วยไข้ได้ทุกข์มากมาย ทั้งยังได้บอกบุญแก่ญาติโยมให้ช่วยสร้างพระพุทธปฏิมากร ซ่อมแซมพระพุทธรูปของเก่าที่ชำรุด สร้างพระไตรปิฎก และปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมกุฏิภายในวัด จนเจริญรุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้

ชื่อเสียงของหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน นั้นโด่งดังมาหลายทศวรรษแล้ว เพราะเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้สร้าง พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก ที่มากด้วยพุทธคุณ และ เหรียญรูปเหมือน มีค่านิยมสูงในวงการพระเครื่อง นอกจากนี้ยังมีพระอรหัง กลีบบัวเคลือบ และไม่เคลือบ เครื่องราง เช่น ตะกรุด ผ้าประเจียด และรูปถ่าย แม้ หลวงปู่ไข่ ไม่ได้มียศถาบรรดาศักดิ์ เป็นเพียงพระหลวงตาประจำวัด แต่การปฏิบัติและกิตติคุณของท่าน เป็นที่เลื่องลือว่าทรงวิทยาวรคุณ เป็นพระวิปัสสนาที่มีชื่อเสียง และมีคุณธรรมสูง เป็นที่ยอมรับในหมู่นักปฏิบัติธรรม

เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ นอกจากจะเป็นผู้เคร่งครัดในการปฏิบัติแล้ว ท่านได้สร้างพระแจกให้ลูกศิษย์ และผู้ที่มานมัสการท่าน เพื่อนำไปบูชาให้เกิดสิริมงคลอีกด้วย ปรากฏว่าวัตถุมงคลหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลนที่ท่านแจกไปนั้น เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าเด่นในด้านเมตตา คงกระพัน มหาอุด และดีพร้อมไปเสียทุกอย่าง

พระเครื่อง สันขวาน

หลวงปู่ไข่เริ่มอาพาธด้วยโรคชราตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2475 ครั้นวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2475 เวลา 13.25 น. ก็ถึงแก่มรณภาพ

ก่อนเวลาที่จะมรณภาพ หลวงปู่ได้ข่มความทุกข์เวทนาอยู่ในเวลานั้น ให้หายไปได้ ประดุจบุคคลที่ไม่มีอาการเจ็บป่วยใด ๆ แล้วขอให้ศิษย์ที่พยาบาลอยู่ ประคองตัวให้ลุกขึ้นนั่ง และให้จุดธูปเทียนบูชาพระ เมื่อกระทำนมัสการบูชาพระเสร็จแล้วก็เจริญสมาธิสงบระงับจิต เงียบเป็นปกติอยู่ประมาณ 15 นาที ก็หมดลมปราณ

ถึงวาระสุดท้ายศิษย์ผู้คอยเฝ้าพยาบาลอยู่ จึงประคองตัวหลวงปู่ไข่ให้นอนลง รวมอายุได้ 74 ปี พรรษา 54 พรรษา

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ