ประวัติ ท่าน ว.วชิรเมธี พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ (พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.เชียงราย
ผู้อำนวยการศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน
ประธานมูลนิธิวิมุตตยาลัย, ประธานมูลนิธิไร่เชิญตะวัน
ผู้ก่อตั้งมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์
UNHCR Patron for Peace and Compassion
Founder of Vajira Mindfulness Center, Italy, France, England
“พระเมธีวชิโรดม” หรือ “พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี” เจ้าของนามปากกา “ว.วชิรเมธี”
- พ.ศ. 2543 สอบไล่ได้ปริญญาบัตร เปรียญธรรม 9 ประโยค มีสมณศักดิ์ทางวิชาการเปรียญธรรม ที่ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี
- พ.ศ. 2562 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ขึ้น เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ในราชทินนามที่ พระเมธีวชิโรดม, (สป.)[6](28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562)
นอกจากนี้ พระว.วชิรเมธี เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล ผู้อุปถัมภ์ UNHCR ด้านสันติภาพ และเมตตาธรรม โดยผู้มอบรางวัลได้แก่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ
ประวัติส่วนตัว ว.วชิรเมธี
พระเมธีวชิโรดมมีชื่อเดิมว่า วุฒิชัย บุญถึง เกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2516ภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านครึ่งใต้ ตำบลครึ่ง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย โดยบิดามารดาเป็นเกษตรกร และมักพาท่านเข้าวัดตั้งแต่เด็ก
เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ท่านว.วชิรเมธี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดครึ่งใต้ ขณะมีอายุได้ 14 ปี โดยได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมแผนกนักธรรม จนจบนักธรรมชั้นเอก แล้วย้ายมาพำนักที่วัดพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จนสำเร็จการศึกษาเปรียญธรรม 6 ประโยค
อายุได้ 21 ปี ก็ได้กลับมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดครึ่งใต้ ก่อนย้ายมาพำนักที่วัดเบญจมบพิตร กรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีต่อจนสำเร็จเป็นเปรียญธรรม 9 ประโยค ในปี พ.ศ. 2543 ซึ่งในปีเดียวกันนั้น พระเมธีวชิโรดมยังได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ศึกษาศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
กระทั่งในปี พ.ศ. 2546 สำเร็จการศึกษาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และได้รับอาราธนาให้เป็นอาจารย์สอนระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยดังกล่าว หลังสำเร็จการศึกษา ท่าน ว.วชิรเมธี ได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงประยุกต์ (Applied Buddhism) ผ่านการเทศน์ปนทอล์กที่ทำให้การเทศนาธรรเป็นเรื่องสนุก ทันสมัย เข้าใจง่าย เข้าถึงคนทุกกลุ่ม ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ โดยมีทั้งจัดเป็นเวทีเทศนา และเผยแผ่ธรรมะผ่านรายการโทรทัศน์
ท่านยังเขียนยทความในนิตยสารหนังสือพิมพ์หลายฉบับ รวมถึงหนังสือธรรมประยุกต์ภายใต้นามปากกา ว.วชิรเมธี จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยผลงานสร้างชื่อของท่านคือ ธรรมนิพนธ์ชุด “ธรรมะติดปีก” ซึ่งประกอบด้วย ธรรมะติดปีก ธรรมะบันดาล ธรรมะดับร้อน ธรรมะหลับสบาย
ธรรมนิพนธ์ของท่านได้รับผลตอบรับดี มีข้อมูลว่า ณ ปี พ.ศ. 2557 ท่านมีผลงานธรรมนิพนธ์มากกว่า 200 เล่ม บางเรื่องการนำไปดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ และหลายเล่มถูกแปลเป็นภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ภาษาอินโดนีเซีย ภาษาสเปน ภาษาฝรั่งเศส
ท่าน ว.วชิรเมธี ยังเป็นผู้ก่อตั้ง “มูลนิธิวิมุตตยาลัย” สถาบันการศึกษาทางเลือกเพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและพัฒนาสันติภาพโลก ซึ่งเน้นการทำงานด้านการศึกษาและมนุษยธรรม
นอกจากนี้ยังก่อตั้งศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน เพื่อเป็นธรรมสถานในการ บูรณาการพุทธธรรมเข้ากับทุกกิจกรรมของชีวิตผ่านการจัดคอร์สภาวนาทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ และก่อตั้งมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ สถาบันการศึกษาทางเลือกเพื่อการพัฒนาตามปรัชญาพุทธเศรษฐศาสตร์
ปัจจุบันท่านสังกัด วัดพระสิงห์ (พระอารามหลวง) ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย และพำนักจำพรรษา ณ ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน บ้านสันป่าเหียง ตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
พระ ว.วชิรเวธี ยังเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล ผู้อุปถัมภ์ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ด้านสันติภาพ และเมตตาธรรมด้วย