เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนในโซเชียล หลังมีภาพ “วัฒนา อัศวเหม” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมงานเลี้ยงสมุทรปราการก้าวหน้า หลังคดีคลองด่านหมดอายุความ ทำให้นายวัฒนา อัศวเหม กลับมาเป็นที่จับตามองของสังคมอีกครั้ง

Sanook จึงชวนทุกคนมาเปิดประวัติ “วัฒนา อัศวเหม” ว่าคือใคร พร้อมย้อนรอยคดีทุจริตดังอย่าง “คดีคลองด่าน”

วัฒนา อัศวเหม คือใคร

นายวัฒนา อัศวเหม เกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2479 ปัจจุบันอายุ 87 ปี เป็นคนตำบลปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ จบการศึกษาปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาตรี สาขาการจัดการธุรกิจ จาก Southeastern USA (London Campus) ประเทศอังกฤษ

ด้านครอบครัว นายวัฒนา ได้สมรสกับนางจันทร์แรม อัศวเหม และมีบุตรด้วยกัน 3 คน ได่แก่ นายพิบูลย์, นายพูลผล (อดีต ส.ส.สมุทรปราการ) และนายชนม์สวัสดิ์ (อดีตประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ)

เส้นทางการเมือง

นายวัฒนา ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสมุทรปราการถึง 10 สมัย (พ.ศ. 2518-2539) อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหลายกระทรวง เช่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (พ.ศ. 2519), รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2535)

นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งสำคัญในหลากหลายพรรคการเมื่อง เช่น รองหัวหน้าพรรคชาติไทย, หัวหน้าพรรคราษฎร และประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน

ฉายา “เจ้าพ่อปากน้ำ”

“เจ้าพ่อปากน้ำ” เป็นหนึ่งในฉายาที่ใช้เรียกนายวัฒนา โดยมาจากการที่เขาได้รับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสมุทรปราการถึง 10 สมัย

คดีคลองด่าน คืออะไร

ย้อนไปในขณะที่นายวัฒนา ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย ในปี 2538 ได้มี “โครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย คลองด่าน” มูลค่ากว่า  23,700 ล้านบาท ซึ่งนายวัฒนาได้ทำการกว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านในราคาถูก อีกทั้งบีบบังคับเจ้าหน้าที่ออกโฉนดที่ดิน และนำไปขายต่อรัฐ โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่หวงห้ามจำนวนกว่า 1,903 ไร่ 

ในวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาคดีดีฉ้อโกงซื้อที่ดิน และสัญญาโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน โดยมีโทษจำคุก 10 ปี แต่นายวัฒนาไม่ได้เดินทางมา และมีข่าวว่านายวัฒนาได้เดินทางหนีผ่านประเทศกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันคดีนี้หมดอายุความแล้ว 

• แชร์ว่อน “วัฒนา อัศวเหม” คัมแบ็ก? หลังคดีขาดอายุความ โผล่อวยพรผู้สมัครชิงนายก อบจ.
• ศาลออกหมายจับ “วัฒนา อัศวเหม” พร้อมพวก หลังไม่มาฟังคำพิพากษา