ประยุทธ์ นำทัพ เปิดแผนปราบยาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน ปี 66 ย้ำ ทุกหน่วยทำงานแบบบูรณาการ ฮึ่ม ถ้าพบเจ้าหน้าที่มีเอี่ยว ฟันวินัย-อาญาเด็ดขาด
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 พ.ย. 2565 ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน เปิดแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามนโยบายรัฐบาล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ระยะเร่งด่วน 3 เดือน พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย
นายเจเรมี ดักลาส ผู้แทนสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก (UNODC) นายคาร์สเท่น แอนเดอร์เซ่น ผู้แทนหน่วยประสานงานยาเสพติดและอาชญากรรมต่างประเทศประจำประเทศไทย (FANC) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แม่ทัพภาค 1-4 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ผู้บัญชาการกองกำลังทหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้บังคับหน่วยทหาร ศึกษาธิการจังหวัดและประธานกลุ่มเจ้าหน้าที่ประสานงาน ยาเสพติดระหว่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 800 คน
นายสมศักดิ์ กล่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ จ.หนองบัวลำภู รัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติด เป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องเร่งรัดดำเนินการ โดยให้ความสําคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และความร่วมมือจากต่างประเทศ ดำเนินการยึดทรัพย์ตัดเส้นทางการเงินของเครือข่ายยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
โดยจากเป้าหมายยึดทรัพย์ 100,000 ล้านบาท ทำการยึดอายัดทรัพย์สินแล้ว 6,879 ล้านบาท และเตรียมมาตรการป้องกันการลักลอบส่งยาเสพติดผ่านทางพัสดุ นอกจากนี้ ได้ดำเนินมาตรการควบคุมการนำเข้าและส่งออกสารเคมีที่นำไปใช้ผลิตยาเสพติดโซเดียมไซยาไนต์ โดยร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม การกำหนดให้ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก และผู้ซื้อ ต้องยืนยันตัวตนโดยการลงทะเบียน เพื่อควบคุมปริมาณและการติดตามการใช้สารดังกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดมีความสลับซับซ้อน จะต้องปรับแก้วิธีการดำเนินการ เพราะฝ่ายตรงข้ามมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงวิธีการอยู่ตลอดเวลา ปัญหายาเสพติดส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและสังคมของประเทศ ดังนั้น ความเข้าใจในปัญหาและการประสานงานการบูรณาการงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ ในประเทศ และระดับประเทศ ไปจนถึงชุมชนและหมู่บ้าน จะต้องหาทางช่วยกันแก้ไข ป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษา โดยเฉพาะการแก้ปัญหาผู้เสพรายใหม่ และผู้เสพรายเก่า จึงขอให้บูรณาการกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลกำหนดให้การปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ถือเป็น 1 ใน 12 นโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขกฎหมายที่ซับซ้อน จาก 24 ฉบับ เหลือเพียงฉบับเดียว และมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งเป็นผลดีต่อเจ้าหน้าที่ในการปราบปราม จับกุม และขยายผลไปสู่นายทุน และผู้เกี่ยวข้องได้เป็นจำนวนมาก สามารถอายัดทรัพย์สินได้มากถึง 1.1 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยกลายเป็นเส้นทางผ่าน โดยเฉพาะตามแนวชายแดนเพื่อส่งต่อไปยังที่อื่น ดังนั้นเราจึงต้องแก้ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อไม่ให้แพร่กระจายไปตามแนวชายแดน จึงขอเน้นย้ำทุกคนทุกหน่วย ปฏิบัติการตามแผนป้องกันและปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดในระยะเร่งด่วน 3 เดือน ตามที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ได้กำหนดไว้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้อนุมัติไปแล้ว
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราต้องเน้นเรื่องการบำบัด รักษา และฟื้นฟู โดยเฉพาะกรณี จ.หนองบัวลำภู ต้องถือเป็นบทเรียน ที่สำคัญจะต้องไม่ทำงานแบบวัวหายล้อมคอก ต้องนำบทเรียนทุกบทเรียนมาดำเนินการวิธีการแก้ไขปัญหา ขอให้กระทรวงสาธาณสุข เน้นเรื่องการบำบัดรักษาฟื้นฟู รวมไปถึงการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมาย หรือประกาศต่างๆ สำหรับใช้กับการบำบัดดูแลรักษา คัดกรองผู้ติดยาเสพติด นำเข้าสู่กระบวนการอย่างเหมาะสม
นายกฯ กล่าวต่อว่า ทุกหน่วยงานจะต้องตรวจสอบบุคลากรข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัด เพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นผู้เสพ หรือสนับสนุนกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด จะต้องเอาผิดทั้งวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด หากพบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผู้บังคับบัญชาต้องถูกลงโทษด้วย ขอย้ำว่ารัฐบาลมีความตั้งใจขจัดยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย โดยเฉพาะความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน ร่วมเป็นหูเป็นตาให้กับหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อช่วยคืนคนดีสู่สังคม
นายกฯ กล่าวอีกว่า ในช่วงการประชุมเอเปคที่ผ่านมา เราจะเห็นว่าบ้านเมืองของเราสวยงามและสะอาด นี่คือประเทศไทย มีความยิ้มแย้มแจ่มใส ร่วมกันรับแขกบ้านแขกเมือง ทุกคนพึงพอใจมีความสุข ทำให้เห็นว่าคนไทยมีน้ำใจ มีรอยยิ้มและเป็นเจ้าบ้านที่ดี ดังนั้น ตนหวังว่าทุกอย่างจะสงบเรียบร้อยอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะได้ทำงานอย่างมีอิสระ ที่จะทำให้ทุกอย่างดีกว่าเดิม ตนขอขอบคุณทุกฝ่ายทุกหน่วยงาน รวมถึงประชาชน เพราะถ้าเรารวมใจเป็นหนึ่งเดียว แล้วเดินไปข้างหน้า แก้ไขปัญหาไปด้วยกันด้วยความเข้าใจ ทุกอย่างจะสำเร็จ ตนยืนยันว่าจะสำเร็จแน่