ประยุทธ์ หวั่นเพื่อไทยแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้ไม่คุ้มเสีย เสถียรภาพการเงินพัง ขอประชาชนช่วยกันคิด ฟุ้งรัฐบาลทำหลายอย่าง เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นแล้ว
เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 11 เม.ย. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายหาเสียงเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย ว่า วันนี้ได้ให้โอกาสหน่วยงานด้านเศรษฐกิจการเงินการคลังมาชี้แจง แต่ตนไม่ได้อยากไปอะไรกับใคร เพราะเป็นเรื่องของการหาเสียงของแต่ละพรรค วันนี้มาพูดคุยถึงการรักษาเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศ และการใช้จ่ายของประเทศที่ผ่านมา เราใช้จ่ายอย่างไร เพื่อจะพุ่งเป้าไปยังผู้ที่เดือดร้อน ทำให้เกิดรายได้ เรื่องการประกอบอาชีพต่างๆ เพิ่มเติมด้วย ไม่ใช่ให้เงินอย่างเดียว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า จะเห็นได้ว่าในส่วนที่เป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ร่วมทำกันมาแล้ว ซึ่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนไปได้มากพอสมควร ต้องดูเม็ดเงินว่าจะสามารถทำอะไรได้อีก ฉะนั้นงบประมาณต่างๆ ของปี 2567 ตั้งไปแล้ว ถ้าจะไปแก้ไขอะไรต้องไปแก้กันในสภาฯ หน้า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นกฎหมายเป็นระเบียบที่ต้องทำงบประมาณไว้ก่อนล่วงหน้าในปี 2567 โดยจะต้องนำสิ่งต่างๆ ที่ต้องทำต่อในเรื่องการลงทุนที่มีกฎหมายชัดเจน การลงทุนกี่เปอร์เซ็นต์ การใช้งานกี่เปอร์เซ็นต์ และมีงบประมาณเหลือเท่าไหร่ที่จะทำโครงการใหม่ รวมถึงงบประมาณการใช้หนี้ การเติมเงินคงคลัง ที่เราสำรองจ่ายไปในช่วงสถานการณ์โควิด-19
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ต้องมองในบริบทใหญ่ วันนี้ถ้าเรามองในภาพรวมจะเห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งคำว่าดีขึ้นไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะร่ำรวยทั้งหมด เพียงทำให้สถานะทางการเงินการคลังของเราแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น สิ่งที่เห็นได้คือการท่องเที่ยว ที่มีคนเข้ามาหลาย 10 ล้านคน การจองเครื่องบินเข้ามาหลายหมื่นไฟลต์ ในช่วงโลว์ซีซั่น ถือเป็นการจัดหารายได้เพิ่มเติม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เราจะต้องเตรียมความพร้อมประเทศของเรา เพื่อรองรับการท่องเที่ยวตลอดจนการลงทุนใหม่ โดยบีโอไอ สถิติช่วงต้นปีที่ผ่านมาสูงขึ้นถึง 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ หลายแสนล้านบาท และยังมีการลงทุนจากภายนอกประเทศเข้ามาอีก รวมถึงเรื่องอุตสาหกรรมใหม่ๆ รถไฟฟ้า แบตเตอรี่ สถานีเติมไฟต่างๆ มีครบทุกอัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญจะต้องพัฒนาเทคโนโลยีให้ได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งวันนี้เดินหน้าไปเยอะแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นรายได้ที่จะเข้ามาตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างที่หลายคนอยากได้มากขึ้น ถ้าเราหาเงินไม่ได้ก็จะลำบาก ต้องใช้เวลาทำต่อเนื่องหลายปี และหลายอย่างเราทำใหม่ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่จะต้องใช้งบประมาณสูงขึ้นในโอกาสต่อไป
“จะทำอะไรใหม่ๆ ต้องคำนึงถึงว่าเรามีทรัพยากรอยู่เท่าไหร่ เราจะดูแลใครได้บ้างและดูแลได้มากน้อยแค่ไหน ฉะนั้นการจะทำอะไรต่างๆ ถ้ามันมากเกินไป สิ่งที่ทำไว้แล้วก็สูญเสียไปทั้งหมดนั่นแหละ อะไรที่เคยได้มันก็จะไม่ได้ เพราะไปทำเรื่องใหม่ทั้งหมด ซึ่งมันจะคุ้มค่ากันหรือเปล่ากับการสูญเสียไปก็ไม่รู้เหมือนกัน เป็นเรื่องของประชาชนที่จะต้องช่วยกันคิดแล้วกัน” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่าธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง มีข้อเสนอแนะหรือมีข้อห่วงใยอะไรหรือไม่ในเรื่องดังกล่าว นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ระมัดระวังเรื่องความมีเสถียรภาพของสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ ตอนนี้เราอยู่ในระดับต้นๆ ที่รักษามาตรฐานตรงนี้ไว้ได้ องค์กรทางด้านการเงินระหว่างประเทศชื่นชมเราสามารถบริหารจัดการได้ดี การเงินเรามีเสถียรภาพ ค่าเงินบาทยังโอเค
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า หลายอย่างมันดีขึ้น เพียงแต่ว่ายังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับประชาชนโดยรวม ก็ต้องเห็นใจรัฐบาลด้วย ถ้ามี เราก็ดูแลให้ได้หมด อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งต้องระมัดระวังที่สุดในการใช้จ่ายเงิน
เชิญร่วมโหวตครั้งประวัติศาสตร์ “มติชน x เดลินิวส์” โพลเลือกตั้ง ’66 เลือกนายกฯ ที่ใช่-เลือกพรรคการเมืองที่ชอบ คลิกทำโพลได้ที่ >> https://www.matichon.co.th/thai-election66-poll/
#โหวตอนาคต
#โพลเลือกตั้งมติชนเดลินิวส์
#เลือกตั้ง66
#มติชนเลือกตั้ง66