‘ประยุทธ์’ ปลื้ม! ไทยขยับขึ้นอันดับ 26 รับมือโควิดได้ดี โวมาตรการรัฐบาลมาถูกทาง มั่นใจเป็นสัญญาณบวกต่อความเชื่อมั่นในการกลับมาเปิดประเทศ
เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พอใจประเทศไทยรับมือการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ดีขึ้น โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กประจำเดือน ม.ค. 2022 จัดอันดับ The Covid Resilience Ranking ให้ประเทศไทยรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีที่สุดเป็นอันดับที่ 26 จาก 53 ประเทศและเขตเศรษฐกิจ หลังจากที่เคยอยู่อันดับ 51 เมื่อเดือน ต.ค. 2021 และล่าสุดขยับขึ้นมาถึง 18 อันดับ จาก 44 ขึ้นมาอยู่ที่ 26
โดยพิจารณาจาก 12 ปัจจัยด้วยกันใน 3 หมวดหลัก ได้แก่ กระบวนการเพื่อให้กลับมาเปิดประเทศ เช่น สัดส่วนประชากรที่ได้รับวัคซีน จำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง สถานการณ์โควิด-19 เช่น สัดส่วนผู้ป่วยต่อประชากร 100,000 คน สัดส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 คุณภาพชีวิตประชาชน เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจ ระบบสาธารณสุข และดัชนีการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ เป็นต้น
ทั้งนี้ รายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กยังระบุว่า ประเทศไทยทำได้ดีในขณะนี้ คือ สัดส่วนการฉีดวัคซีนของประชากร จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ขณะเดียวกัน ที่ยังต้องติดตามจำนวนเที่ยวบินที่ยังสัดส่วนติดลบถึงร้อยละ 64.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2020 รวมถึงการคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีปีนี้ ที่อยู่ที่ร้อยละ 3.9
นายธนกร กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรี พอใจการจัดอันดับที่ดีขึ้นในครั้งนี้ สะท้อนถึงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของรัฐบาลที่ถูกต้อง เชื่อว่าจะเป็นผลบวกต่อความเชื่อมั่นในการกลับมาเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวของไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง เพราะเห็นได้ชัดว่าประเทศไทยยังมีพลังและคนไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศให้สามารถเดินหน้าต่อไปควบคู่กับการป้องกันโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ที่กำลังจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นในอนาคตอันใกล้นี้
“สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันนี้ รวม 8,358 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยจากในประเทศ 8,402 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 216 ราย ผู้ป่วยสะสม 200,655 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565) หายป่วยกลับบ้าน 8,358 ราย หายป่วยสะสม 149,512 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 83,939 ราย เสียชีวิต 19 ราย ล่าสุดการให้บริการวัคซีน โควิด-19 สะสมอยู่ที่ 115,701,424 โดส เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 52,255,503 โดส เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 48,551,623 โดส เข็มที่ 3 ฉีดสะสม 13,931,370 โดส เข็มที่ 4 ฉีดสะสม 962,928 โดส” นายธนกรกล่าว