'ประยุทธ์' นั่งหัวโต๊ะประชุมผู้นำ อินโดฯ-มาเลย์ มุ่งพัฒนา ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

Home » 'ประยุทธ์' นั่งหัวโต๊ะประชุมผู้นำ อินโดฯ-มาเลย์ มุ่งพัฒนา ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง


'ประยุทธ์' นั่งหัวโต๊ะประชุมผู้นำ อินโดฯ-มาเลย์ มุ่งพัฒนา ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 10 พ.ย. 2565 ที่ห้อง Ballroom III ชั้น Lobby (L) โรงแรมสกคา พนมเปญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 14 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia – Malaysia Thailand Growth Triangle: IMT – GT) ในฐานะประธานที่ประชุม

โดยมีนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย นายตัน ซรี ดาตุก อัซฮาร์ อาซิซาน ฮารุนประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดาโต๊ะ ปาดูกา ลิม จ๊อก เลขาธิการอาเซียน และนายมาซัตสึกะ อะซากาวา ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย เข้าร่วมด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำหน้าที่ประธานการประชุมระดับผู้นำในครั้งนี้ ตลอดช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา รัฐบาลประเทศสมาชิกได้ดำเนินการอย่างรอบด้าน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด รวมถึงดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันโลกก็ยังเผชิญกับความท้าทายในมิติอื่นๆ ซึ่งล้วนมีความซับซ้อน
IMT-GT จึงได้มุ่งดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมผ่านวิสัยทัศน์ปี 2579 ในการเป็น “อนุภูมิภาคที่มีการบูรณาการ มีนวัตกรรม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และยั่งยืน” สู่แผนการดำเนินงานในระยะต่าง ๆ โดยในปัจจุบัน ได้มีแผนการดำเนินงานในระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2565-2569)

ทั้งนี้ ไทยเห็นว่า 3 สาขาดังต่อไปนี้ มีความสำคัญสูงต่อการพัฒนาอนุภูมิภาคฯ ภายใต้แผนการดำเนินงานดังกล่าว 1.ความเชื่อมโยงไร้รอยต่อ ที่เน้นการเชื่อมโยงของโครงสร้างพื้นฐานและกฎระเบียบต่าง ๆ ในอนุภูมิภาค 2.เศรษฐกิจบนฐาน BCG Model ที่มุ่งสร้างความเข็มแข็งของห่วงโซ่อุปทานในอนุภูมิภาค รวมถึงสร้างการเติบโตที่คำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม

และ 3.การท่องเที่ยวมูลค่าสูง ที่มุ่งยกระดับศักยภาพด้านดิจิทัลของบุคลากรในภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือเพื่อให้ IMT-GT เป็นจุดหมายปลายทางเดียวกันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การหารือในวันนี้จะบรรลุผลเป็นรูปธธรม ให้แผนงานสามารถพลิกฟื้นความท้าทาย และพลิกโฉมให้ IMT-GT เป็นอนุภูมิภาคแห่งโอกาสของการพัฒนาเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า จากรายงานความก้าวหน้าการพัฒนาในอนุภูมิภาค IMT-GT ทำให้ได้รับทราบถึงปริมาณการค้าภายในและการค้ากับภูมิภาคอื่นกำลังเริ่มฟื้นตัว แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวยังเติบโตได้ไม่มากนัก ทุกภาคส่วนของ IMT-GT จึงต้องร่วมกันดำเนินงานเพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ โดยในรอบปีที่ผ่านมา IMT-GT สามารถขับเคลื่อนตามข้อสั่งการสำคัญของผู้นำจากการประชุมในครั้งที่ผ่านมาได้อย่างน่าชื่นชม

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมผู้ว่าราชการจังหวัดและมุขมนตรีของ IMT-GT ที่เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการนำนโยบายสู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงสภาธุรกิจ IMT-GT ผู้เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการตามแผนงาน IMT-GT และสนับสนุนการขยายบทบาทไปยังผู้ประกอบการ MSMEs รวมทั้งผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ในระยะต่อไปควรต้องมุ่งเน้นฟื้นฟูเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคภายหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามวิสัยทัศน์ IMT-GT พ.ศ. 2579

ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เสนอใน 6 ประเด็น ได้แก่ 1.การเร่งพัฒนาความเชื่อมโยงโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมแบบไร้รอยต่อ 2.เร่งดำเนินโครงการสำคัญเพื่อสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่คุณค่าของสินค้าเกษตร 3.เร่งพัฒนาโครงการภายใต้ความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม โครงการเมืองสีเขียว และกรอบการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนเพื่อสอดรับกับ BCG Model

4.เสริมสร้างความเข้มแข็งของสภาธุรกิจ IMT-GT เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนโครงการต่างๆ 5.สนับสนุนการเชื่อมโยงแผนงาน IMT-GT กับแผนงานพัฒนาเศรษฐกิจ ในระดับอนุภูมิภาคอื่นๆ เพื่อให้สามารถเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน และ6.เร่งรัดการดำเนินโครงการสำคัญด้านการท่องเที่ยวเพื่อเป็นตัวจักรสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคฯ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ