‘ประยุทธ์’ ขอบคุณพรรคร่วม ช่วยแก้ปัญหาปชช.มา 2 ปี ย้ำใช้เวลาปี 65 ให้เกิดประโยชน์

Home » ‘ประยุทธ์’ ขอบคุณพรรคร่วม ช่วยแก้ปัญหาปชช.มา 2 ปี ย้ำใช้เวลาปี 65 ให้เกิดประโยชน์



‘ประยุทธ์’ ขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล ช่วยแก้ปัญหาประชาชนมา 2 ปี กำลังย่างสู่ปีที่ 3 ขอให้เริ่มทำงานในปี 2565 ทันที ย้ำใช้เวลาให้เกิดประโยชน์

เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 4 ม.ค.นี้ ว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนราชการ ที่ช่วยกันทำงานในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ทั้งข้าราชการในฝ่ายนโยบายและฝ่ายปฏิบัติการทุกระดับ ในการปฏิบัติหน้าที่ในการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองที่ช่วยดูแลแนวชายแดน ดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงหน่วยงานและกระทรวงต่าง ๆ ที่ร่วมกันมอบของขวัญปีใหม่ ผ่านโครงการและความช่วยเหลือประชาชน

อาทิ การลดค่าไฟ โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ทัวร์เที่ยวไทย ช่วยขับเคลื่อนทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2565 นี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกส่วนราชการดำเนินเดินหน้ากิจการและแผนงาน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่องในปี 2565 ต่อไป

นายธนกร กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวขอบคุณกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทหาร ตำรวจ ตำรวจจราจร และอาสาสมัครจราจร ที่ทุ่มเททำงานป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โดยอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2564 ถึง 2 มกราคม 2565 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,221 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 2,198 ราย และผู้เสียชีวิต 263 ราย

โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ จ.เชียงใหม่ ผู้เสียชีวิตมากที่สุดอยู่ที่กรุงเทพฯ และนายกรัฐมนตรียังฝากถึงพี่น้องประชาชน ขอให้ร่วมกันเรียนรู้ ปรับตัว ช่วยกันเตือนให้มีสติในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ร่วมกันลดอุบัติเหตุและความสูญเสียในอนาคต

นายธนกร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวให้กำลังใจพรรคร่วมรัฐบาล ขอให้เริ่มการทำงานในปี 2565 ทันที โดยขอให้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ เร่งสร้างผลสำเร็จให้มากที่สุด พร้อมกล่าวขอบคุณหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ที่ร่วมกันแก้ปัญหามากว่า 2 ปี และกำลังย่างเข้าสู่ปีที่ 3 ที่สำคัญคือ รัฐบาลต้องแก้ทุกเรื่องที่มีผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะเศรษฐกิจในประเทศ รายได้ประชาชน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมมาตรการรองรับภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับทราบถึงสถานการณ์ราคาหมูแพง และได้สั่งการกระทรวงพาณิชย์ ให้เร่งดูแล แก้ไขทั้งระบบ ตั้งแต่ผู้เลี้ยงหมูถึงการจัดจำหน่ายแล้ว

นายธนกร กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังได้รายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศที่ผ่านมามีการปรับตัวดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศมามากขึ้น การใช้จ่ายภาครัฐดีขึ้น ตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้น ดุลการค้าเกินดุล ขณะเดียวกันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์น้ำท่วม โรคติดต่อ ราคาพลังงานโลกปรับตัวสูง และการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลกที่ยังรุนแรง รัฐบาลจึงต้องกลับมาดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด และพยายามลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ รวมทั้งเตรียมความพร้อมทั้งสถานพยาบาล และการรักษาพยาบาล โดยขอความร่วมมือประชาชน หมั่นตรวจคัดกรองตนเองด้วย แอนติเจน เทสต์ คิท หรือเอทีเค

นายธนกร กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรียังห่วงใยการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 จากโซเซียลมีเดีย ขอให้ประชาชนติดตามและรับฟังข้อมูลจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศบค.) กระทรวงสาธารณสุข และบุคลากรทางการแพทย์ ชี้แจงเป็นหลัก และขอให้กระทรวงสาธารณสุขนำเสนอสถานการณ์ต่างประเทศ ซึ่งยกตัวอย่างบางประเทศที่มียอดการระบาดสูงเป็นแสนรายต่อวัน เพื่อให้ประชาชนร่วมกันศึกษา ทำความเข้าใจ เรียนรู้หลักการในการวิเคราะห์ เพื่อสร้างการรับรู้ ลดความสับสนอีกด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ