ประธานกกต.สั่งทั่วประเทศ เตรียมพร้อมเลือกตั้งส.ส. ที่จะครบวาระในปี 2566 เน้นศึกษากฎหมายให้โปร่งใส เจ้าหน้าที่เป็นกลางทางการเมือง
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.65 ที่โรงแรมเมอเวนพิค อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเพื่อพัฒนางานและยกระดับมาตรฐานการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ครั้งที่ 5/2565 เพื่อมอบแนวทางและข้อเสนอแนะในการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี นายปกรณ์ มหรรณพ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต. และนายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. พร้อมด้วยรองเลขาธิการกกต. ผู้บริหารทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 77 จังหวัด เข้าร่วมประชุม
นายอิทธิพร กล่าวเปิดงานว่า การจัดการเลือกตั้งส.ส. เป็นองคาพยพของวงจรการบริหารละจัดการเลือกตั้ง ซึ่งต้องทำงานท่ามกลางการเฝ้าติดตามจากทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด การแข่งขันทางการเมืองจากนักการเมืองที่มีความเข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งต้องคำนึงถึงความคาดหวังที่สูงต่อการเลือกตั้ง และไม่ว่าระบบการเลือกตั้งจะถูกออกแบบไว้อย่างไร หากเกิดความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็จะเป็นประเด็นที่ถูกนำมาหยิบยกได้ ข้อคำนึงอีกประการในการทำงานคืออิทธิพลของสื่อสังคมออนไลน์ที่สื่อสารได้อย่างรวดเร็ว เราต้องยอมรับความเป็นจริง เช่น หากกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุปฏิบัติงานผิดพลาดก็จะถูกถ่ายรูปและแชร์ข้อมูลไปอย่างรวดเร็ว ทำให้กรรมการประจำหน่วยหน่วยเลือกตั้งจะปฏิเสธไม่อยากทำหน้าที่ เนื่องจากปัญหาสุขภาพ ที่ต้องทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องและแรงกดดันต่างๆ
“สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะครบวาระในวันที่ 23 มี.ค.2566 ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด ในฐานะผู้รับผิดชอบการจัดการเลือกตั้งในระดับจังหวัดนับว่ามีความสำคัญ ที่จะต้องทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต โปร่งใส และชอบด้วยกฎหมาย การได้รับความรู้จากการนำเสนอ ปัญหา อุปสรรคที่เกิดขึ้น และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้แทนในแต่ละภาค จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ได้อย่างรวดเร็ว และเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพราะปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นก็ไมได้มี อยู่ในคู่มือที่จะศึกษาได้” นายอิทธิพร กล่าว
นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า ขอให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด ให้ความสำคัญกับแหล่งข่าวและผู้แจ้งเบาะแส ด้วยการพิจารณาเงินรางวัลให้กับแหล่งข่าว และผู้แจ้งเบาะแส การหาแหล่งข่าวต้องเชื่อถือได้ สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำสำนวนได้ ระวังเรื่องนำเครือญาติหรือบุคคลที่รู้จักมาเป็นแหล่งข่าว อาจทำให้หลักฐานไม่เพียงพอที่จะจัดการกับคนที่ทำการไม่สุจริตได้ นอกจากบทบาทผู้จัดการเลือกตั้งแล้ว ผู้อำนวยการเลือกตั้งควรจัดกิจกรรมสร้างการเรียนรู้ ให้กับประชาชนที่มีความสนใจ เพื่อจะได้อบรมให้ความรู้ในกระบวนการเลือกตั้ง เพื่อสร้างบุคลากรที่นำมาเป็นเครือข่าย และลดแทนผู้ที่ลาออก
ประธานกกต. ยังย้ำถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะครบวาระในปี 2566 ให้ครอบคลุมทุกด้าน เช่น การแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งทราบดีว่า แต่ละจังหวัดได้เตรียมการเรื่องนี้ไว้แล้ว การประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับบัตรเลือกตั้งที่จะใช้บัตรใบเดียวตามที่กฎหมายได้มีการแก้ไข และการสรรหาผู้สมัครของพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ในการส่งผู้สมัคร รับเลือกตั้ง ส.ส. ในแต่ละเขตเลือกตั้ง ตามที่ที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่มีการแก้ไขกำหนดขึ้นใหม่ จึงจำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเบื้องต้น ส่วนการทำสำนวน และแจ้งข้อกล่าวหาให้ยึดแนวทาง 4 ประสานต้านทุจริต คือ ควรสอบสวน ทำสำนวนให้มีความสมบูรณ์ เมื่อมีการร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องให้เงินควรทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน หากมีเงินของกลางก็ให้ส่งตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือ เพื่อเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ด้วย พร้อมกันนี้ต้องสร้างความสัมพันธ์กับหน่วยงานอื่นๆ
นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงการสรรหา กกต.เขต ผอ.กกต.เขต และ คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง(กปน.) ต้องสรรหาจากบุคคลที่มีความเป็นกลางทางการเมือง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใด โดยเฉพาะกรรมการประจำหน่วย ซึ่งมีส่วนสำคัญในการปฏิบัติงาน ในวันเลือกตั้งไม่ควรเสนอบุคคลที่เคยเป็น กปน. และถูกร้องเรียนหรือ ถูกดำเนินคดีในการปฏิบัติหน้าที่
ในช่วงท้ายประธาน กกต. ยังกล่าวว่าสิ่งที่กล่าวมานี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการด้านต่างๆ ในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นในปี 2566