สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (20 ต.ค.) สำนักงานประธานาธิบดีของอียิปต์รายงานว่า อับเดล-ฟัตตาห์ อัล-ซีซี ประธานาธิบดีอียิปต์ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการไม่อนุญาตให้พลเรือนที่ไหลทะลักออกจากฉนวนกาซา เข้ามายังเขตคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ ระหว่างการประชุมร่วมกับ ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ในกรุงไคโร เมืองหลวงของประเทศ
ประธานาธิบดีอียิปต์กล่าวเตือนว่า “เรื่องนี้เป็นสิ่งอันตรายอย่างยิ่ง และอาจทำให้เป้าหมายของชาวปาเลสไตน์จบสิ้นลงอย่างสมบูรณ์” พร้อมเรียกร้องให้ดำเนินการร่วมกันเพื่อคุมการลุกลามของสถานการณ์ในฉนวนกาซาที่อาจจะ “คุมไม่อยู่”
“การฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพควรเป็นหนึ่งในบทเรียนที่เราต้องเรียนรู้จากวิกฤตครั้งนี้ เช่นเดียวกับการให้ความหวังแก่ชาวปาเลสไตน์ในการจัดตั้งรัฐของตน บนอาณาเขตพื้นที่ตามเส้นแบ่งพรมแดนในปี 1967 โดยมีนครเยรูซาเล็มฝั่งตะวันออกเป็นเมืองหลวง” เขากล่าว
ด้านริชี ซูนัค ยินดีกับความพยายามของอียิปต์ในการเปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ระหว่างอียิปต์และกาซาอีกครั้ง พร้อมกล่าวว่าสหราชอาณาจักรมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมช่วยเหลือพลเรือนในกาซาและบรรเทาสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ย่ำแย่ในกาซา
อนึ่ง การเผชิญหน้าอันรุนแรงระหว่างกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์และอิสราเอล ซึ่งปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตของทั้งสองฝ่ายสูงกว่า 5,000 รายแล้ว