‘ปดิพัทธ์ ก้าวไกล’ ลั่นวาจา ถ้าได้ขึ้น ประธานสภาฯ ต้องลาออกจากพรรค?

Home » ‘ปดิพัทธ์ ก้าวไกล’ ลั่นวาจา ถ้าได้ขึ้น ประธานสภาฯ ต้องลาออกจากพรรค?

ปดิพัทธ์ สันติภาดา ตัวแทน พรรคก้าวไกล เข้าชิงเก้าอี้ ประธานสภาฯ ลั่นวาจา ต้องลาออกจากกรรมการบริหารพรรคเพื่อเป็นกลางที่สุด

หลังจากที่ พรรคก้าวไกล นั้นได้ประกาศชื่อตัวแทนพรรค ที่จะเข้าชิงเก้าอี้ ประธานสภาฯ อย่าง นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก และกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) สัดส่วนภาคเหนือ ลงชิงตำแหน่งประธานสภาฯ ก็กลายเป็นที่แตกตื่น เพราะทางฝั่งของ พรรคเพื่อไทย นั้นก็ออกมาแสดงจุดยืนเช่นกัน ว่าต้องการเก้าอี้ประธานสภาฯ จึงกลายเป็นกระแสการเมืองที่ประชาชนคนไทยให้ความสนใจและถกเถียงกันอย่างแพร่หลาย

ทั้งนี้ เดิมทีมีกำหนดวาระการประชุมร่วมระหว่าง พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ในวันนี้ 28 มิ.ย. 66 แต่แล้วกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา กลับมีประกาศใหม่โดย นางสาวภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล แจ้งต่อสื่อมวลชนพรรคก้าวไกล กรณีการนัดหารือกันระหว่างแกนนำพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับข้อสรุป ‘ประธานสภาฯ’ ว่า ขอเลื่อนออกไปก่อนโดยไม่มีกำหนด

ก้าวไกล ชู วิสัยทัศน์ “ปดิพัทธ์” ดัน เป็นประธานสภาของพรรค

ประวัติ ‘ปดิพัทธ์ สันติภาดา’ ตัวแทนก้าวไกล ผู้เข้าชิงเก้าอี้ ‘ประธานสภาฯ’

พรรคก้าวไกล เคาะชื่อ! ประธานสภาฯ ส่ง ‘ปดิพัทธ์ สันติภาดา’ เข้าชิงเก้าอี้

ล่าสุดเช้านี้ในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ สรยุทธได้เชิญ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือหมออ๋อง เข้ามาพูดคุยในรายการ โดยพูดถึงแง่มุมที่ พรรคก้าวไกล มองตำแหน่งประธานสภาฯ ว่าจะนำสภาไปในทิศทางใด และกังวลหรือไม่เกี่ยวกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังจากที่ นายปิยบุตร เคยกล่าวว่า

ประธานสภาต้องเป็นของก้าวไกล เพื่อที่จะผลักดันกฎหมาย 40 กว่าฉบับ ซึ่งมีอีกฝั่งที่บอกว่า ประธานสภาฯ ต้องเป็นกลางจะมาผลักดันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ หมออ๋อง จะตอบว่าอะไร

ครับเป็นเรื่องจริงครับ เพราะในรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า ประธานสภาฯ ต้องเป็นกลาง และไม่ได้เป็นแค่ประธานของผู้แทนราษฎร แต่เป็นประธานของสมาชิกวุฒิสภาด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าผมได้เป็นประธานสภาฯจริงๆ หน้าที่ของผม คือให้ช่องทางการเสนอกฎหมายทุกอย่าง ที่มาจากทุกพรรค ที่มาจากภาคประชาชนหรือ ครม. ได้รับการเสนอเข้าไปอย่างเท่าเทียมกัน และมีประสิทธิภาพ ไม่ได้รับเสนอแค่กฎหมายจากรัฐบาลอย่างเดียว

“สิ่งที่เราประกาศไว้เลยคือ นิติบัญญัติต้องไม่อยู่ใต้อาณัติของรัฐบาล ผมเองก็ต้องลาออกจากกรรมการบริหารพรรค ไม่ประชุม ส.ส. และแยกออกมาทำงานให้องค์กรใหม่ที่เรียกว่า รัฐสภา” นายปดิพัทธ์กล่าว