ประชาธิปัตย์ ประกาศแคมเปญ 3 วันสุดท้าย #SAVE ประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVE ประชาธิปไตยไม่โกง เพื่อตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาของประเทศ ก่อนเข้าคูหา 14 พ.ค.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ค.2566 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลกทม. แถลงแคมเปญก่อนเข้าคูหากาเลือกประชาธิปัตย์ #SAVE ประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVE ประชาธิปไตยไม่โกง ว่า หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประชาชนร่วมกันติดแฮชแท็ก SAVE ประชาธิปัตย์ เผยแพร่จำนวนมากในโลกออนไลน์ พรรคจึงใช้กระบวนการ ฟัง คิด ทำ นำความคิดเห็นประชาชน มาเป็นแนวทางปฏิบัติ และแนวทางหาเสียงช่วง 3 วันสุดท้าย ก่อนเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เพื่อให้ผู้สนับสนุน สมาชิกและประชาชน ที่เคยทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาช่วยกันรักษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้มีโอกาสทำงานต่อเพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป
นายองอาจ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา เราจะพบว่ามีนักการเมืองส่วนหนึ่งหาผลประโยชน์โดยมิชอบ เบียดเบียนงบประมาณ เช่น นักการเมืองจากพรรคหนึ่งที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก เพราะไปเรียกรับเงินในการพิจารณางบประมาณ และผู้มีอำนาจส่วนหนึ่งแสวงหาผลประโยชนิโดยมิชอบ เพราะหวังว่าจะเอาเงินส่วนหนึ่งมาใช้ประโยน์ เพื่อมาซื้อส.ส.ให้ตัวเองกลับมามีอำนาจอีก เมื่อมีอำนาจก็แสวงหาผลประโยชน์ และซื้อส.ส. ซึ่งจะเป็นวงจรอยู่อย่างนี้ จนกลายเป็นวงจรอุบาทว์ และข้ออ้างในการปฏิวัติ คือนักการเมืองทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างกว้างขว้าง สิ่งเหล่านี้ทำให้ประเทศไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้
นายองอาจ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา มั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ ทำงานมาด้วยความซื่อสัตย์ในระบอบการปกครองประชาธิปไตย เห็นได้จากการเป็นพรรคแรก ที่เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางดารเมืองต่อสาธารณชน ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้คดีความที่เกิดจากการทุจริตต่อหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่มีวันหมดอายุความ ไม่ว่าจะหลบหนีไปอยู่ในต่างประเทศนานแค่ไหน ก็จะถูกดำเนินคดีเรื่อยไป
ดังนั้น การเดินหน้าประชาธิปไตย จะต้องไม่โกง เพื่อตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาของประเทศในภาพรวม ไม่ให้เกิดปัญหาทางการเมือง 3 ประการคือ นักการเมืองแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเองและพวกพ้องในงบประมาณแผ่นดิน นักการเมืองผู้มีอำนาจแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เช่นการซื้อเสียง ดูดส.ส. วนกลับเข้ามามีอำนาจ และ นักการเมืองทุจริตคอร์รัปชั่น
“ทั้งหมดคือเหตผลว่าทำไมเราจึงบอกประชาชนให้ช่วยกันติด# SAVE ประชาธิปัตย์ เพื่อส่งสัญญาณรักษาประชาธิปไตยไม่โกง เพราะเป็นเป้าหมายและอุดมการณ์ของพรรคโดยรวม เพื่อตอกย้ำจุดยืนในการรักษาบ้านเมืองให้อยู่รอด” นายองอาจ กล่าว