ปชป.หนุนซอฟต์พาวเวอร์ ไม่จำเป็นต้องใช้งบแผ่นดิน พร้อมตั้งธนาคารหมู่บ้านละ 2 ล้านช่วยชุมชน พปชร.ชี้ซอฟต์พาวเวอร์สำคัญ ชูปฏิรูป 5 มิติ
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 13 มี.ค.66 ที่โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) เครือมติชนจัดแคมเปญ “มติชน: เลือกตั้ง 2566 บทใหม่ประเทศไทย” เข้าสู่ช่วงที่ 2 เป็นการดีเบตด้านเศรษฐกิจ โดยการจับคู่ ระหว่างนายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หัวข้อมีนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์อย่างไร
นายพิสิฐ กล่าวว่า เรื่องซอฟต์พาวเวอร์มีการพูดกันมาก ทุกวันนี้เราพูดถึงเรื่องการท่องเที่ยวเป็นหลักว่าประเทศไทยมีความสามารถในการดึงดูดชาวต่างประเทศให้มาท่องเที่ยว และทุกวันนี้เรายอมรับว่าการท่องเที่ยวเป็นเศรษฐกิจที่มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจไทย เป็นแหล่งจ้างงานของไทย ทำรายได้เข้าประเทศปีหนึ่งเกือบ 2 ล้านล้านบาท ก่อนที่จะเกิดโควิด ซึ่งโควิดทำให้รายได้ของประเทศไทยขาดหายไปไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาท เพราะฉะนั้นนโยบายของปชป. เราต้องดึงการท่องเที่ยวกลับเข้ามา รวมไปถึงเรื่องของธุรกิจต่อเนื่อง เพราะการมีรายได้ตกต่ำ เกิดการขาดทุน เราจึงต้องมีมาตรการอื่นๆเข้ามาช่วย ทั้งธุรกิจโรงแรม โดยการช่วยเรื่องเงินทุน
“เรามีการตั้งกองทุน ประมาณ 3 แสนล้านบาท เพื่อช่วยเสริมทุนให้กับเอสเอ็มอีต่างๆ เพื่อสร้างซอฟต์พาวเวอร์ให้กับประเทศเรื่องเงินทุนเหล่านี้ เราจะทำโดยไม่สร้างหนี้ให้งบประมาณ แต่เป็นเงินนอกงบประมาณที่มีอยู่แล้ว แต่ข้าราชการนั่งทับไว้ เรื่องซอฟต์พาวเวอร์เรายังมีด้านอื่นที่มีปัญหาระหว่างการทำงานของกระทรวงต่างๆ ที่ให้การการท่องเที่ยวยังไปไม่ดีเท่าที่ควร”
นายพิสิฐ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ปชป.มีการตั้งธนาคารหมู่บ้าน หมู่บ้านละ2 ล้านบาท เงินที่จะลงไปจะต้องผ่านการกรองอย่างดีและลงไปยังจุดที่จะช่วยให้ชุมชนต่างๆ สามารถสร้างซอฟต์พาวเวอร์ให้ตัวเอง ในการหารายได้เข้าท้องถิ่น เกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรม ที่สำคัญคือเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ชาวต่างประเทศ และยังมีซอฟต์พาวเวอร์ด้านอื่นๆ ที่สามารถส่งออกได้ เช่น มวยไทย อาหารไทย ดังนั้นจึงเห็นว่าซอฟต์พาวเวอร์ของไทยมีอยู่แล้ว แต่สำคัญเรื่องเงินทุนที่ขาดหายไป ดังนั้นปชป.มีนโยบายชัดเจนที่จะเสริมซอฟต์พาวเวอร์เหล่านี้ให้แข็งแรงขึ้น โดยการใช้เงินของเราที่มีอยู่ ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณแผ่นดิน ไม่ต้องก่อหนี้ใหม่
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ภาคบริการเป็นภาคที่มีส่วนในการกระตุ้นและรับผิดชอบเศรษฐกิจไทยค่อนข้างสูง และหัวใจหนึ่งที่ขับเคลื่อนภาคบริการคือซอฟต์พาวเวอร์ หัวใจพื้นฐานของซอฟต์พาวเวอร์คือ ทุนทางวัฒนธรรมของประเทศไทย การที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพราะเรามีทุนทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นการหยิบทุนทางวัฒนธรรมใส่กลไกนโยบายซอฟต์พาวเวอร์คือ เรื่องสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ไปกระทบภาพใหญ่ในภาคบริการ ทุนทางวัฒนธรรมจะเป็นเครื่องจักรเศรษฐกิจที่สำคัญในด้านการท่องเที่ยว
นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า การปฏิรูปซอฟต์พาวเวอร์มีอยู่หลายมิติ แต่สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญมีอยู่ 5 ด้าน 1.อาหาร คือเรื่องสำคัญที่สุด ต้องผลักดันอาหารไทยสู่ตลาดโลก 2.เฟสติวัล ซึ่งคือเสน่ห์ของประเทศไทยที่มีความหลากหลายของประเพณีและวัฒนธรรม ต้องหยิบมาขายและสร้างการรับรู้ให้ทั้งโลก 3.แฟชั่น ประเทศไทยต้องเป็นศูนย์กลางแฟชั่นที่มีมิติทางวัฒนธรรม แล้วสร้างมิตินี้ให้เกิดการขับเคลี่อนซอฟต์พาวเวอร์สำคัญ 4.ธุรกิจภาพยนตร์และโฆษณา และ 5.การต่อสู้มวยไทย
“หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านซอฟต์พาวเวอร์มีอยู่ 3 สิ่ง สิ่งแรกของซอฟต์พาวเวอร์คือนโยบาย จะต้องเป็นนโยบายที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย จะต้องไม่เป็นนโยบายที่ล้มลุกคลุกคลาน พูดด้วยวาทกรรมแต่ขาดการนำไปสู่การขับเคลื่อนที่แท้จริง สิ่งที่ 2 กลไกของงบประมาณในการบริหารจัดการต้องมีเพียงพอ สิ่งที่ 3 กลไกของรัฐและอง์กรที่เกี่ยวข้อง จะต้องบูรณาการหรือต้องปรับแผนงานในการทำงานร่วมกันผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ และการส่งเสริมภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องซอฟต์พาวเวอร์”นายสนธิรัตน์ กล่าว