โฆษก ปชป. ยัน ‘ปริญญ์’ ลาออกจากสมาชิกปชป.ตั้งแต่ 14 เม.ย.แล้ว ย้ำพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ มีกระบวนการภายในหลายเรื่องเปิดเผยไม่ได้
จากกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามกฎหมายแจ้งไปยังพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) มีมติเด็ดขาดตามข้อบังคับพรรค กรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ มีคดีล่วงละเมิดทางเพศ นั้น
เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2565 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอย้ำว่าพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการหารือเป็นการภายในอย่างใกล้ชิด เก็บรายละเอียดต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พรรคตระหนักดีในเรื่องดังกล่าวว่าเป็นเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม และได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ซึ่งกระบวนการภายในของพรรคในหลายเรื่องไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่าพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือปล่อยปละละเลยต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
นายราเมศ กล่าวต่อว่า การที่นายศรีสุวรรณระบุว่า อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ คนดังกล่าวได้แสดงสปิริตลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคฯ แต่ไม่ได้บ่งบอกว่าได้ลาออกจากสมาชิกนั้น ต้องขอชี้แจงความเป็นจริงว่า นายปริญญ์ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคแล้วตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย. และช่วงเช้าวันนี้ (18 เม.ย.) ได้มีการรับลงในระบบ เพื่อดำเนินการแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองต่อไป ยืนยันว่าพรรคมีการปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมืองและข้อบังคับโดยเคร่งครัด
“พรรคและทุกคนในพรรคยอมรับกระบวนการตรวจสอบ และให้ดำเนินการตรวจสอบได้เต็มที่ เพราะเมื่อทุกคนเข้ามาอยู่ตรงนี้การยอมรับการตรวจสอบคือเรื่องพื้นฐานในระบบประชาธิปไตย ความเป็นพรรคการเมือง นักการเมือง มีเครื่องพิสูจน์ตลอดระยะเวลาบนเส้นทางที่อาสามารับใช้ประชาชน การตรวจสอบจึงถือเป็นเรื่องสำคัญของการนำไปสู่บ้านเมืองสุจริต” นายราเมศ ระบุ