บ่มความแค้น 10 ปี ทหารรุ่นพี่บุกยิงรุ่นน้อง ดับคาที่ สารภาพเรื่องบาดหมางมานาน เตือนแล้วหลายครั้งยังทำ สุดทนบุกหาถึงที่

วันที่ 8 พ.ค. 66 ร.ต.อ.สมศักดิ์ ทองกร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตาย ภายในซอยสามยอด9 ต.ทะเลชุบศณ อ.เมือง จ.ลพบุรี จึงรายงานให้ พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.เมืองลพบุรี ทราบ พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ลพบุรี แพทย์เวรจาก รพ.อานันทมหิดล และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ว่างเปล่า หมู่6 ต.เขาสามยอด พบร่าง ร.ต.ธีรพงศ์ เงินปาน อายุ 69 ปี อยู่ฝั่งตรงกันข้าม ลักษณะนอนตะแคงขวา สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา กางเกงขาสั้นสีดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม. เข้าที่ลำคอ จำนวน 2 นัด และที่กกหูซ้าย 1 นัดเลือดไหลนองพื้น และมีปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. ตกอยู่ จำนวน 4 ปลอก ซึ่งมีผู้พบเห็นว่าผู้ยิงคือ ร.ต.ประสงค์ สายบัวแก้ว อายุ 74 ปี ยังอยู่ภายในบ้าน ซึ่งอยู่ในซอยเดียวกัน ห่างกันประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ พบว่าได้รอมอบตัวพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ

จากการสอบถาม ร.ต.ประสงค์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องยิงเนื่องมาจากเป็นความแค้นที่สะสมมานานนับ 10 ปี เนื่องจากผู้ตายชอบมาขโมยของในบ้านตนซึ่งได้พยายาม ว่ากล่าวตักเตือนไปแล้วหลายครั้ง จนมาเมื่อช่วงเช้าได้มีของหายอีก จึงเดินไปสอบถามผู้ตายที่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ ว่าพอแล้วนะอย่ามาหยิบอะไรที่บ้านกูอีก ซึ่งผู้ตายได้โต้เถียง ด่าทอกัน จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงขู่ไป 1 นัด แต่ผู้ตายสู้ โดยใช้ไม้มาตีตนจนเจ็บ ปืนหล่น เมื่อคว้าปืนมาได้จึงยิงใส่ร่างไป 3 นัด จนผู้ตายล้ม หลังจากนั้นก็เดินกลับไปที่บ้านเพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ด้าน นางวิภา อายุ 63 ปี ภรรยาผู้ตายซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ กล่าวว่า สามีเป็นประธานซอย 9 และเป็นคนนิ่งเฉย แต่ยอมรับว่าทั้งคู่บาดหมางกัน เรื่องของหาย ตนได้ยินจาก ร.ต.ประสงค์ ว่าสามีไปหยิบช้อนเก่าโบราณของเขามา พยายามทวงถามสามี แต่สามีปฏิเสธว่าไม่ได้ไปเอา ซึ่งบ้านของ ร.ต.ประสงค์ ไม่มีรั้วขอบชิด ซึ่งอาจจะเป็นผู้อื่นเข้าไปหยิบหรือขโมยไป แต่มือปืนก็ยังคงปักใจว่าสามีตนเป็นคนเอาไป จนเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะทั้งคู่เป็นทหารรุ่นพี่รุ่นน้องและอยู่ในซอยเดียวกัน

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว ร.ต.ประสงค์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป