จากกรณีครอบครัวผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รอการช่วยเหลือ อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านเจ้าพระยาราชพฤกษ์  ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยทั้งครอบครัวพักอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 คน ได้แก่ น.ส.พูลทรัพย์ สุดยัง อายุ 48 ปี, น.ส.วรัทยา แก่นจันทร์ อายุ 28 ปี ลูกสาว, ด.ช.รุ่งเรือง อายุ  14 ปี ลูกชาย ผลติดเชื้อมีอาการหายใจไม่ออก, นายวรัท แก่นจันทร์ อายุ 27 ปี ลูกชายถูกส่งตัวรักษาแล้ว, ส่วนนางสมัย สรณตรัย อายุ 66 ปี แม่ และนายสุชาติ โตงามรัตน์  อายุ 55 ปี น้าชายซึ่งเป็นผู้พิการ ยังไม่ได้ตรวจหาเชื้อ

• แม่ลูกติดโควิด 3 ชีวิต มีออกซิเจนถังเดียวต้องสลับกันใช้ คนในบ้านเสี่ยงสูงอีก 2 ราย

สำหรับลูกสาวและลูกชายคนเล็กซึ่งมีอาการหนัก ได้รับความลำบากหายใจเองไม่สะดวก จำเป็นต้องใช้ถังออกซิเจนที่มีอยู่ถังเดียวสลับไปมาระหว่างกันนั้น วันนี้องค์กรทำดีได้ประสานเข้าช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 22.00 น. (30 ก.ค.64) องค์กรทำดี โดย ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี หรือ บุ๋ม ปนัดดา ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการตอบโต้สถานการณ์โรคระบาดและโรคระบาดระบบทางเดินหายใจ หรือ ชุดปฏิบัติการตอบโต้ COVID-19 นำเครื่องช่วยหายใจเดินทางเข้าช่วยเหลือ น.ส.วรัทยา แก่นจันทร์ อายุ 28 ปี ลูกสาว และ ด.ช.รุ่งเรือง อายุ  14 ปี ลูกชาย ที่หายใจไม่สะดวกแน่นหน้าอก ใช้เวลาเข้าดำเนินการประมาณ 1 ชม. จนผู้ป่วยทั้งสองมีค่าออกซิเจนเพิ่มขึ้นและหายใจสะดวกจึงได้กลับออกมา    

ส่วน นางสมัย สรณตรัย อายุ 66 ปี พิการแขนซ้าย แม่ของ น.ส.พูลทรัพย์ ที่ยังไม่ทราบว่าติดเชื้อหรือไม่แต่ก็ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ได้แยกกักตัวอยู่บริเวณชั้นล่างของบ้าน เมื่อทราบว่าทีมงานองค์กรทำดีจะเข้ามาช่วยเหลือหลานทั้งสองคนที่อาการหนัก ได้นั่งรอนานเกือบ 2 ชม. จนกระทั่งทีมงานเข้าช่วยเหลือจึงรู้สึกดีใจและขอบคุณทีมงานเป็นอย่างมาก    

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทีมงาน ดร.ปนัดดา หลังให้การช่วยเหลือผู้ป่วยหนักทั้ง 2 คน ทราบว่าทั้งสองคนมีปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำ น้องคนเล็กมีความดันต่ำอยู่ที่ 90/50 ทีมจึงให้ออกซิเจนทั้งสองคน ลูกสาวมีค่าออกซืเจนอยู่ที่ 87-89 จึงให้ออกซิเจนแบบถุงครอบ ค่าจึงเพิ่มขึ้นมาที่ 98-99 ส่วนน้องคนเล็กค่าออกซิเจนอยู่ที่ 91-92 ใช้เครื่องผลิตออกซิเจนโดยให้ทางจมูก ค่าเพิ่มขึ้นมาที่ 98 คืนนี้ทั้งสองคนจะนอนสบายไม่อึดอัดและไม่แน่นหน้าอก โดยทีมจะทิ้งเครื่องผลิตออกซิเจนไว้ให้ใช้หลังจากน้องได้เตียงรักษาทางทีมงานจะมารับเครื่องคืน    

ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เปิดเผยว่า เคสนี้ได้รับการติดต่อจากผู้สื่อข่าว น่าจะมีอาการหนักจริงๆ ถึงได้เรียกทีมตนให้มาช่วยก่อน ถ้ารอเตียงตอนนี้คงไม่มีทางแน่นอน ตนจึงได้ประสานทีมและวางแผนนำเครื่องผลิตออกซิเจนและเครื่องวัดปลายนิ้ว ข้าวสาร อาหารแห้ง เข้ามาช่วยเหลือก่อน สำหรับเครื่องที่นำมาช่วยในเคสที่เริ่มหายใจไม่ออก ทีมต้องยื้อลมหายใจให้ได้มากที่สุดจนกว่าเขาจะได้เตียง แต่บางเคสทีมก็ช่วยไม่ทันหรือจากไป หลังจากนั้นทีมจะนำเครื่องกลับไปทำความสะอาดเพื่อช่วยคนอื่นต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้ทราบมาว่ามีการห้ามไม่ให้ผู้ป่วยให้ข่าว ถ้าไม่ให้ข่าวแล้วไม่ช่วยก็ถือว่าใจร้ายเกินไป ชีวิตคนไม่ใช่เรื่องเล่น ถ้าจะช่วยแล้วต้องช่วยให้สุด ตนต้องขออภัยกับผู้ใหญ่ในพื้นที่ ไม่ได้ทำเพื่อข้ามหน้าใคร คิดแต่ว่าทุกคนต้องช่วยกัน หลังจากทีมรายงานให้ทราบว่าน้องทั้งสองคนอาการดีขึ้นก็รู้สึกดีใจ และคิดว่าหลังจากนี้ก็จะเดินหน้าช่วยเหลือคนต่อไป