ชุดเคลื่อนที่เร็วบุกรวบ 2 พระ ยึดวัดร่วมกับวัยรุ่นมั่วสุมเสพ-ขายยาบ้าคากุฏิ ยึดของกลางอื้อ ทั้งยาบ้า อาวุธปืน-กระสุน ชาวบ้านเอือมไม่กล้าไปทำบุญ
เมื่อวันที่ 28 เม.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดนิคมซอย 3 หมู่ที่ 9 ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มอบหมายให้ นายนิธิโรจน์ แก้วเหลา เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ พร้อม สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ 238 พิทักษ์นครลำดวน จากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังหิน เข้าตรวจค้นกุฏิพักสงฆ์ ภายในวัดดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร
โดยภายในกุฏิพบ พระกฤติมา อายุ 36 ปี พระอติชาต อายุ 48 ปี และ นายสถาพร อายุ 29 ปี ซึ่งกุฏิหลังดังกล่าวพระกฤติมาเป็นผู้พักอาศัย จากการตรวจค้นภายในกุฏิ พบยาบ้าที่เหลือจากการเสพจำนวนหนึ่ง อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก และ กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 24 นัด โดยพระกฤติมา ให้การรับสารภาพว่าของกลางดังกล่าวทั้งหมดเป็นของตน และรับว่าเสพยาบ้าจริง
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นกุฏิพักของ พระอติชาต อายุ 48 ปี พบเพียงอุปกรณ์การเสพยาบ้าและรับว่าเสพยาบ้า ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจค้นรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว ทะเบียน 7กต8551 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้ากุฏิภายในวัด โดยนายสถาพร รับว่ารถยนต์คันดังกล่าวตนเป็นผู้ครอบครองและเป็นผู้ขับเข้ามาจอดที่บริเวณดังกล่าว
จากการตรวจค้นปรากฏว่า พบยาบ้า ใส่ไว้ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินแบบกดปิดเลื่อนเปิด จำนวน 2 ถุง ยาบ้ารวม 314 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้แผงควบคุมกระจกบริเวณประตูรถยนต์ฝั่งคนขับ ซึ่งนายสถาพรรับว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตน และรับว่าเสพยาบ้าจริง
นายนิธิโรจน์ เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย สืบเนื่องจากมีประชาชนในพื้นที่บ้านนิคมซอย 3 และ นิคม ซอย 4 หมู่ที่ 9 ต.บ่อแก้ว อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ร้องเรียนไปยัง นายวัฒนาผ่านทางศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษว่า มีพระสงฆ์ 2 รูป ซึ่งเป็นพระมาจากต่างถิ่น คือพระกฤติมาเป็นชาวจ.ลำพูน และพระอติชาต ชาวจ.ขอนแก่น มาจำพรรษาอยู่ที่วัดดังกล่าวเมื่อช่วงโควิดระบาดช่วงแรก 2 ปี ที่ผ่านมา
ซึ่งขณะนั้นที่วัดไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ชางบ้านจึงให้อยู่ที่วัดดังกล่าว ต่อมาระยะหลังปรากฏว่า พระทั้ง 2 รูป มีพฤติการณ์เปลี่ยนไปคือไม่ออกบิณฑบาต และมักจะมีวัยรุ่นในพื้นที่ รวมทั้งนายสถาพร ขับรถเข้าออกภายในวัด และมักจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากภายในวัดเป็นประจำ
ชาวบ้านจึงแอบดูพฤติการณ์จนกระทั่งทราบว่า พระทั้ง 2 รูป ใช้พื้นที่วัดร่วมกับวัยรุ่นเป็นแหล่งมั่วสุมเสพ และขายยาบ้าเป็นประจำทุกวัน จนทำให้ชาวบ้านเกิดความกลัว และไม่กล้าที่จะมาปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา ทั้งที่เป็นวัดประจำหมู่บ้าน จึงร้องเรียนไปยัง ผู้ว่าฯ ให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนที่ได้รับ
จึงสั่งการให้ตนและคณะเข้าตรวจสอบ และจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัว พระทั้ง 2 รูป ไปสึก จากนั้นควบคุมตัวทั้ง 2 คน และนายสถาพร พร้อมของกลางนำไปส่งมอบให้ พนักงานสอบสวน สภ.วังหิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย