บุกจับชาวเขมร ปลอมเป็นพระ นั่งแท็กซี่ออกบิณฑบาตทุกวัน แฉคนไทยชวนมาทำ

Home » บุกจับชาวเขมร ปลอมเป็นพระ นั่งแท็กซี่ออกบิณฑบาตทุกวัน แฉคนไทยชวนมาทำ



บุกจับชาวเขมร ปลอมเป็นพระ นั่งแท็กซี่ออกบิณฑบาตทุกวัน อาศัยป่าเป็นที่พัก แฉคนไทยชักชวนมาทำ เผยได้หนังสือฝึกท่องสวดมนต์จากพระไทย

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 29 พ.ย. 2565 นายพรชัย โพธิ์ทองนาค ปลัดอำเภอพุทธมณฑล พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอพุทธมณฑล เจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และสภ.พุทธมณฑล ร่วมกันบุกค้นป่ารกร้าง ริมถนนพุทธมณฑลสาย 4 หมู่ที่ 6 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ฝั่งตรงข้ามกับสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ

โดยเข้าตรวจค้น 2 จุด จุดแรกกลางป่ารกร้างในซอยศาลายา 29 พบพระสงฆ์เป็นคนไทย 5 รูป และชาวเขมรแต่งตัวคล้ายพระสงฆ์ 1 คน สร้างแคมป์พักอยู่กลางป่า จึงเรียกตรวจสอบ ส่วนอีกประมาณ 10 คนวิ่งหนีเข้าป่าไปได้

จุดที่ 2 ห่างจากจุดเดิม 300 เมตร พบผ้าใบกางเป็นแคมป์พัก 3 หลัง หลังแรกไม่พบผู้อาศัย พบเพียงยากันยุงเพิ่งจุดไฟไว้ ห่างไปอีก 100 เมตร พบผ้าใบกางเป็นแคมป์พักอาศัย 2 หลัง ฝ่ายปกครองสามารถจับกุมบุคคลแต่งตัวคล้ายพระสงฆ์อีก 2 คน ตรวจสอบพบเป็นชาวเขมรแต่งตัวเป็นพระสงฆ์ปลอม ในกระเป๋าพบเงินไทยใบละ 20 บาท และ 50 บาท จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้

สอบถามพระสงฆ์ปลอมชาวเขมร กล่าวว่า พวกตนได้รับการชักชวนจากเพื่อนที่เป็นคนไทยใกล้ชายแดน จ.สุรินทร์ ให้นั่งรถตู้เข้ามากรุงเทพฯ และมารวมกันในจุดดังกล่าว 10-20 คน ก่อนมาแต่งตัวเป็พระสงฆ์ออกบิณฑบาตรับปัจจัยเป็นเงิน พวกตน 2 คน มาได้ 1 อาทิตย์แล้ว

พระสงฆ์ปลอม กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องเทศน์ให้พรหลังชาวบ้านทำบุญ มีพระไทยนำหนังสือมาสอนบทท่องสวดมนต์ให้พร แต่ถ้าคนไหนสวดมนต์ไม่ได้ก็ให้เดินตามหลังไป พวกตนจะแบ่งเป็นกลุ่มละ 2-3 คน ออกบิณฑบาตในเขต อ.พุทธมณฑล อีกส่วนนั่งรถแท็กซี่รับจ้างเข้าไปบิณฑบาตในเขตกรุงเทพฯแล้วจ้างรถแท็กซี่กลับมาที่เดิมทุกวัน

นายพรชัย โพธิ์ทองนาค ปลัดอำเภอพุทธมณฑล กล่าวว่า หลังจากฝ่ายปกครองอำเภอพุทธมณฑลได้รับร้องเรียนจากประชาชนพบเห็นบุคคลแต่งตัวคล้ายพระสงฆ์จำนวนมาก ถืออุปกรณ์บิณฑบาตเดินเข้าออกในป่าทุกวัน จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ และตำรวจ สภ.พุทธมณฑล เข้าตรวจค้นดังกล่าว

นายพรชัย กล่าวต่อว่า ส่วนที่เป็นพระไทย 5 รูป ได้ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาแห่งชาตินำไปตักเตือน ก่อนให้กลับไปจำวัดต้นสังกัด ส่วนพระสงฆ์ที่เป็นชาวเขมร หลังตรวจสอบแล้วเป็นพระสงฆ์ปลอม จึงส่งมอบให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการตามกฎหมายในเบื้องต้น ข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ