บีม กวี ขอเลื่อนคอนเสิร์ตใหญ่ D2B อยากใช้เวลาอยู่กับภรรยาช่วงใกล้คลอด เผยหวั่นซ้ำเหตุการณ์ท้องแรก

ตัดสินใจเลื่อนคอนเสิร์ตใหญ่ D2B ปลายปี พร้อมกับงดรับงานที่ต้องใช้ระยะเวลายาวๆ ด้วยเหตุผลที่อยากจะใช้เวลาอยู่กับภรรยาอย่างเต็มที่ในช่วงใกล้คลอดและหลังคลอดลูกแฝดท้องที่2 ทั้งนี้นักร้องหนุ่ม บีม กวี ตันจรารักษ์ ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวหนัง ทวงคืน ที่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 5 สยามพารากอน วันก่อน

ปีนี้ครบรอบ 21 ปี D2B แล้ว แดน บีม จะคัมแบ๊กไหม? “จริงๆ แล้วปลายปีก็เป็นช่วงที่ D2B จะมีคอนเสิร์ตใหญ่อยู่เรื่อยๆ แต่ปีนี้ก็ขอกับทางอาร์เอสเอาไว้ว่าพอดีแฟนผมจะคลอดช่วงนั้น ซึ่งผู้หญิงท้องจะมีช่วงเบบี้บลูซึ่งฮอร์โมนมันเปลี่ยน แล้วผมเคยรับคอนเสิร์ตงานหนึ่งตอนนั้นแฟนผมคลอดพอดี เราก็ต้องเผชิญกับอะไรที่มันเป็นครั้งแรกแล้วเราไม่รู้และเราไม่ได้อยู่กับเขา ครั้งนี้เราก็เลยเป็นห่วง ปลายปีนี้ขอเว้นวรรคไว้ก่อน เพราะว่าอยากจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด ฉะนั้นก็เลยขอเลื่อนไปก่อน”

เหตุการณ์ที่เคยเจอตอนนั้นคืออะไร? “จำภาพตอนที่ออยเขาแบบร้องไห้ที่ไหล่เราได้ แล้วเขาก็บอกว่าเราแค่อยากเห็นหน้าเธอเราก็รู้สึกดีขึ้นแล้วอ่ะ ด้วยคำพูดตอนนั้นเราก็รู้สึกผิดมากเลยเพราะเวลาเราเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ มันซ้อมทุกวัน ผมออกจากบ้านไปตั้งแต่ 8 โมงเช้า บางทีเขายังไม่ตื่นเลย พอกลับบ้านมาบางทีก็ดึกมากแล้วเขาก็เข้านอนแล้ว”

“ตอนนั้นมันก็เลยเป็นความรู้สึกผิดที่ว่าเราไม่ได้อยู่กับเขาในช่วงหนึ่งเดือนแรกที่ลูกกำลังอ่อนๆ แล้วเขาก็ต้องเผชิญกับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป เหตุการณ์นั้นมันก็เลยติดใจเรานิดหนึ่ง ครั้งนี้ก็เลยบอกกับออยไปว่าในช่วงระหว่างที่ท้องจนคลอด เดี๋ยวเราจะอยู่กับเธอหลังจากนั้นอีก 3 เดือน ไม่ว่าจะเป็นงานละครอะไรที่มันยาวๆ ที่เราจะต้องไปทั้งวันก็จะไม่ได้รับเลย เพราะรู้สึกว่าอยากใช้เวลาตรงนี้เพื่อที่จะชดเชยในสิ่งที่เราเคยทำในครั้งนั้น”

ออยรู้ไหมว่าหนนี้เราแคนเซิลงานเพื่อเขาเลย? “ไม่ได้บอกขนาดนั้นแต่ก็บอกว่าเราตัดสินใจว่าเราไม่รับนะ คือตอนที่ทางอาร์เอสถามว่าจะมีไหมคอนเสิร์ต ใจเราก็อยากเล่นแต่ว่าเราก็คิดถึงภาพเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้วว่ามันเป็นยังไง ผมก็นอนคิดอยู่คืนหนึ่ง รุ่งเช้าก็ไปบอกกับเขาว่าผมไม่เล่นดีกว่า”

ต้องคุยกับแดนก่อนไหม? “อันนี้ไม่ได้ถามแดนเลยก็ตัดสินใจไปเลย เพราะรู้สึกว่าอันนี้มันอาจจะเป็นเรื่องที่เราจะต้องทำเพื่อครอบครัวเรา (แล้วคิดว่าจะกลับมารับงานเต็มๆ ได้อีกเมื่อไหร่?) ต้นปีหน้าประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็น่าจะได้แล้วครับ”

แล้วตอนนี้ออยเริ่มมีอาการเบบี้บลูบ้างไหม? “เขาก็จะมีช่วงที่อ่อนแอประมาณว่าแบบแพ้ท้อง แล้วก็จะมีช่วงที่ฮอร์โมนเขาเปลี่ยน ผมก็อยู่ด้วยตลอดด้วยความที่เราก็เป็นห่วงเขา โชคดีที่ว่าช่วงนี้มีงานที่ได้ทำด้วยกันด้วย”

ใช้อะไรในการรับมือเวลาที่ภรรยาเรามีภาวะฮอร์โมนเปลี่ยน? “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกมากเลย เพราะว่าตอนที่เขาเป็นครั้งแรกผมงงมาก เพราะเขาไม่เคยเป็นแบบนี้ สำหรับผมเขาเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งมาก มีโฟกัส หรือแม้แต่เรื่องที่เขาเป็นเบบี้บลูเขาก็คิดและรู้แล้วว่าอาการฮอร์โมนเปลี่ยนมันเป็นยังไง เขาจะดีลกับตัวเองได้ไม่ต้องกลัว เขาก็เลยบอกให้ผมไปทำงานได้เลยในช่วงนั้นที่ผมเล่นคอนเสิร์ต”

“แต่พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็เลยรู้ว่าแบบจริงๆ แล้วมันไม่สามารถอธิบายได้เลยว่าตอนที่ฮอร์โมนเปลี่ยนความรู้สึกมันเป็นยังไง คนที่อยู่ข้างๆ คือต้องอยู่ใกล้ๆ จะบอกว่าให้กำลังใจบางทีมันก็ส่งไปไม่ถึงเหมือนกัน ง่ายๆ คือต้องอยู่กับเขา กุมมือเขาไว้”

บางคนแก้ไขด้วยการพาไปช้อปปิ้ง? “ผมก็อยากให้เขาช้อปปิ้ง แต่เวลาจะใช้เงินเขาก็เป็นคนที่คิดเยอะ แล้วครอบครัวเราก็อยากจะเซฟทุกอย่างเพื่อลูก ตอนนี้ค่าใช้จ่ายทุกอย่างมันคูณสี่อยู่แล้ว ฉะนั้นช่วงนี้เขาอยากกินอะไรหรืออยากได้ของอะไร ผมก็สปอยล์เลย เพราะผมคิดว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันเป็นการเสียสละมากๆ จนไม่รู้ว่าเราจะช่วยยังไงเลยตามใจไปเลยครับ”