ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (26 ก.ย.) ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. กล่าวก่อนเข้าพูดคุยกับประชาชนจากสมาคมปักษ์ใต้ ว่าในตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 6 นาย ที่ได้ฝากขังไปก่อนหน้านี้ได้ประกันตัวแล้ว ส่วนเรื่องต่าง ๆ ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับลูกน้องของตน โดยจะออกมาพูดเรื่องนี้อีกครั้งในวันพรุ่งนี้

สำหรับเรื่องเงินทั้งหมดที่เป็นเส้นทางการเงิน ที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น ส่วนใหญ่เป็นของตน และเงินลับจาก ผบ.ตร. ซึ่งยืนยันว่ามากกว่าเว็บพนัน สำหรับการที่ต้องใช้เงินในจำนวนมากขนาดนี้เป็นเพราะในการทำภารกิจต่างๆ นั้นใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่เงินที่ได้มานั้นไม่เพียงพอ ตนจึงต้องใช้เงินส่วนตัวเพื่อใช้ทำภารกิจต่างๆ

“ถ้าไม่ทำแบบนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะนำเงินจากไหนมาให้ตน”

ทั้งนี้ ตนได้ชี้แจงกับป.ป.ช.ไว้ทั้งหมดแล้วรวมถึงเฮียแต๋มซึ่ง เป็นผู้ใหญ่ที่เคารพและนับถือเหมือนญาติสนิทก็เคยเข้าชี้แจงต่อป.ป.ช.

“ตนขอเรียนให้ทราบว่าตนไม่ทำเรื่องอย่างพนันออนไลน์ เพราะแค่เงินมรดกที่ได้จากพ่อตาซึ่งเสียชีวิต และแม่ยายซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกที่ยังไม่ได้แบ่งก็มีนับพันล้านแล้ว”

สำหรับเรื่องเส้นทางการเงินของลูกน้องตนที่เข้าพัวพันกับมินนี่ เจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ซึ่งโดนจับไปก่อนหน้านั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่าต้องไปถามลูกน้องของตนทั้งสองคน ซึ่งคือรองหนึ่ง และรองคริษ ว่าเข้าไปพัวพันได้อย่างไรและทั้งสองคนต้องไปชี้แจงกับพนักงานสอบสวนให้ได้ว่าเส้นเงินต่าง ๆ ได้มาอย่างไร

ส่วนรองคริษซึ่งตนให้ความสนิทสนมเหมือนเป็นเลขา จนให้ถือเงินต่างๆ เพื่อนำมาใช้จ่ายนั่นก็ต้องไปสอบถามเจ้าตัวว่าได้เข้าไปเล่นพนันจนหมุนเงินไม่ทันหรือไม่ และต้องนำเงินที่ตนให้มาหมุนก่อนแต่ไม่เพียงพอจนต้องนำเงินจากเว็บพนันของมินนี่ หรือไม่นั้นต้องไปสอบถามกับเจ้าตัว ว่าได้ทำจริงไหมและให้เจ้าตัวได้ชี้แจง

สำหรับเรื่องการเช่าบ้านของเฮียแต๋มทั้ง 5 หลังใน ซอยวิภาวดี 60 เฮียแต๋มเคยเข้าชี้แจงต่อ ป.ป.ช. และตนก็เคยชี้แจงเช่นกัน ทั้งนี้ จากบ้านทั้ง 5 หลังที่ตนได้เช่าอยู่นั้นตนใช้อยู่ 2 หลัง และ 1 เป็นพ่อของตนที่เคยอาศัยอยู่ ส่วนที่เหลือใช้เก็บของและให้กับลูกน้องของตนไว้พัก

ทั้งนี้ ตนยังทราบอีกว่าสื่อได้มีการพยายามโทรหาไปที่เฮียแต๋ม ซึ่งเฮียแต๋มขณะนี้ยังไม่สะดวกเปิดตัวแต่ในวันพรุ่งนี้จะเปิดตัวเพื่อตอบข้อสงสัยต่าง ๆ กับสื่อ “เฮียแต๋มไม่ยุ่งเกี่ยวกับเว็บแน่นอน เพราะมีธุรกิจซึ่งได้เงินอยู่ต่อปีประมาณ 7-8 ร้อยล้านอยู่แล้ว”

สำหรับการประชุมก.ตร.นัดสำคัญซึ่งจะเป็นวันคัดสินผู้นั่งเก้าอี้ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่าอยากได้ผบ.ตร.ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่น และศรัทธา ให้กับประชาชนและกระจายอำนาจเป็นขวัญกำลังใจให้กับตำรวจได้