“บิ๊กป้อม” โวลั่น ผลงานตลอดปี 65 เพียบ ใช้ใจบันดาลแรง รุก 3 พันธกิจ ฟื้นเศรษฐกิจฐานราก ขจัดความเหลื่อมล้ำ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย
วันที่ 30 ธ.ค.65 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. เปิดใจถึงการทำงานตลอดปี 2565 ว่า ยังคงมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้มีความกินดีอยู่ดี ผ่านการขับเคลื่อนการต่อยอด 3 พันธกิจหลักของพปชร.ได้แก่ 1. สวัสดิการประชารัฐ ขจัดความเหลื่อมล้ำ 2.เศรษฐกิจประชารัฐ สร้างความสามารถและโอกาสที่เท่าเทียม และ 3.สังคมประชารัฐ สงบสุข เข้มแข็ง แบ่งปัน
โดยการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวผ่านการลงพื้นที่เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนต่อเนื่องตลอดปี เพื่อรับฟังปัญหาและความเห็นของประชาชน หน่วยงานในท้องถิ่น เพื่อให้รับทราบถึงแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขอย่างตรงจุด ซึ่งแต่ละที่ย่อมมีความต้องการและปัญหาที่ต่างกันออกไป เพื่อนำมาสู่การปรับปรุงให้ตรงเป้าหมายกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยแนวทางดำเนินงานรูปแบบดังกล่าวจะทำให้การพัฒนาเข้าไปถึงเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างแท้จริง ผ่านการสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับชุมชนและยกระดับคุณภาพชีวิตที่มุ่งเน้นความยั่งยืน
ด้านบริหารจัดการน้ำ-ที่ดินใจบันดาลแรงเพื่อคนไทย ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการน้ำ ที่ดินทำกิน บนพื้นฐานที่ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิดเพราะ 2 สิ่งนี้คือรากฐานของชีวิตคนไทยที่น้ำเป็นทั้งเพื่ออุปโภคและบริโภค ที่ดินเพื่อการเกษตรในการทำมาหากินของประชาชนจำนวนมากก่อให้เกิดอาชีพ รายได้
ดังนั้น ในรอบปี 2565 จึงมุ่งเน้นการขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการน้ำ ที่ดินทำกินต่อเนื่องควบคู่ไปกับการดูแลความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนดังนี้
โดยเดือน ม.ค. เร่งขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการน้ำภาคกลางลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรมีน้ำอุปโภคบริโภคใช้ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษา และสำรวจพื้นที่ในการพัฒนาโครงการพัฒนาแหล่งน้ำให้เพียงพอ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการใช้ในแต่ลพื้นที่
ขณะที่เดือนก.พ. เร่งรัดแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ เพื่อให้ไทยก้าวขึ้นสู่เทียร์ 2 และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศ แสดงเจตนารมย์ ต่อต้านการค้ามนุษย์ทางเพศ และการใช้แรงงานเด็ก โดยบูรณาหน่วยงานเร่งยกระดับมาตรฐานกฎหมายเข้าสู่เกณฑ์สากล
จากนั้นเดือน มี.ค.วางแผนพัฒนาโครงการแก้ปัญหาภัยแล้ง-อุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำยั่งยืน
เดือน เม.ย.บรรลุเป้าหมายจัดหาแหล่งน้ำเพิ่ม 2.6 หมื่นแห่ง ใน 2 ปี เพิ่มความมั่นคงด้านน้ำให้ประชาชน
เดือน พ.ค.ผลักดันโครงสร้างพื้นฐานระบบราง – ดิจิตัล ลดภาระ เพิ่มรายได้ กระจายความเจริญ ตามยุทธศาสตร์ พปชร.
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เดือน มิ.ย.แก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับชาวหาดใหญ่ ฟื้นฟูการท่องเที่ยว พลิกฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
เดือน ก.ค.เร่งแผนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พร้อมมอบหมายหน่วยงาน ช่วยเหลือประชาชนรับมือฤดูมรสุม ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มุกดาหาร จันทบุรี และระนอง
เดือน ส.ค. ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่จ.สระบุรี และใกลเคียง เพื่อเตรียมแผนบริหารน้ำ ลดผลกระทบน้ำท่วมพื้นที่ภาคกลาง
ขณะที่เดือนก.ย.รับมือมวลน้ำจากภาคเหนือ ป้องกันน้ำทะลักเข้ากรุงเทพ เร่งตรวจประตูระบายน้ำ หาแนวทางป้องกันน้ำท่วมกทม.-มีนบุรี-หนองจอก
จากนั้นเดือนต.ค.ลงพื้นที่แก้ปัญหารับมือน้ำท่วม จ.ชัยนาท อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี และกรุงเทพฯ ลดผลกระทบประชาชน โดยการฟื้นฟูพื้นที่ทำกิน กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
และเดือนพ.ย. ลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาแหล่งบริหารจัดการน้ำหนองหาร จ. สกลนคร เพื่อกักเก็บน้ำใช้ในช่วงฤดูแล้ง จนเข้าสู่
ล่าสุดเดือนธ.ค. ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ หนุนพัฒนาเศรษฐกิจทั้งระบบ สร้างสันติสุขในพื้นที่ เพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชน สร้างอาชีพที่มั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ ไม่แบ่งแยกศาสนา ขึ้นเหนือจ.เชียงราย ลดปัญหาฝุ่น เพิ่มแหล่งน้ำใช้ให้เพียงพอตลอดทั้งปี ทั้งนี้ในปี 2566 ยังคงสานต่อนนโยบาย เพื่อมอบให้กับคนไทย ในการที่จะพัฒนาอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างมั่นคง และยั่งยืนต่อไป