บิ๊กป้อม ลุยกระบี่ ช่วยชาวสวนปาล์ม มีรายได้ทะลุแสนล้าน ดันแปรรูปสู่พืชศก.ยั่งยืน

Home » บิ๊กป้อม ลุยกระบี่ ช่วยชาวสวนปาล์ม มีรายได้ทะลุแสนล้าน ดันแปรรูปสู่พืชศก.ยั่งยืน


บิ๊กป้อม ลุยกระบี่ ช่วยชาวสวนปาล์ม มีรายได้ทะลุแสนล้าน ดันแปรรูปสู่พืชศก.ยั่งยืน

บิ๊กป้อม ลุย กระบี่ ช่วยชาวสวนปาล์ม มีรายได้ทะลุแสนล้าน ดันแปรรูปสู่พืชเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ตั้งเป้าผลักดันไทย ศูนย์กลางผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ ปี 66

วันที่ 5 ก.ย. 2565 ที่ลานหน้าศาลากลาง จ.กระบี่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ด้านน้ำ และพบปะประชาชนและชาวสวนปาล์มน้ำมัน โดยมีตัวแทนชาวสวนปาล์มจากจังหวัดกระบี่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พังงาและนครศรีธรรมราช อาทิ กลุ่มคนปลูกปาล์มกระบี่ สมาคมปาล์มพังงา สมาคมปาล์มสุราษฎร์ธานี เดินทางมาต้อนรับอย่างอบอุ่น

ภายในงานได้มีนิทรรศการแสดงผลงานของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา อาทิ ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจจากราคาผลปาล์มที่เพิ่มขึ้นแต่ละปี มาตรการเพิ่มมูลค่าน้ำมันปาล์มดิบแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (BCG) 8 ชนิด ได้แก่ น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานชีวภาพ น้ำมันจาระบีชีวภาพ น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า สารซักล้างชีวภาพ พาราฟิน สารจำกัดศัตรูพืชชีวภาพ น้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ (กรีนดีเซล) และ นำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ (Sustainable Aviation Fuel – SAF)

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ในวันนี้ เพื่อมาเยี่ยมพี่น้องชาวสวนปาล์ม มารับฟังปัญหาด้วยตัวเอง ในฐานะประธานกรรมการ กนป. มาถึง 8 ปี เมื่อเม.ย.ที่ผ่านมา ชาวสวนปาล์มขึ้นไปขอบคุณที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีผลงาน 4 ปีต่อเนื่อง แม้ในช่วงโควิด-19 เศรษฐกิจในพื้นที่ปลูกปาล์มยังสะพัดหมุนเวียนดีตลอดห้วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะมาตรการ กนป. วางไว้อย่างเป็นระบบ โดยนำน้ำมันปาล์มดิบไปใช้เป็นไบโอดีเซล นำไปผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อดูดซับสต๊อกส่วนเกินที่ล้นตลาด ดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ

มาตรการประกันรายได้ ส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร ทำให้เกิดเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งสูงกว่าราคารับประกันที่ กก.ละ 4 บาท ประหยัดงบประมาณที่ตั้งไว้เป็นจำนวนมาก จากสถิติข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เห็นว่าปี 2562 ราคาปาล์มทะลายเฉลี่ยทั้งปี 3.11 บาท/กก. ปี 2563 เพิ่มเป็น 4.80 บาท/กก. ปี 2564 เพิ่มเป็น 6.66 บาท/กก. และ ในปี 2565 นี้ คาดว่าจะเพิ่มถึง 7.50 บาท/กก.

เมื่อประมาณการตัวเลขทางเศรษฐกิจแล้วพบว่า มูลค่าผลปาล์มน้ำมันทะลายที่ออกจากสวนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและต่อเนื่อง กล่าวคือ จากปี 2562 มีมูลค่าเพียง 5 หมื่นล้านบาท ต่อมาปี 2563 เพิ่มเป็น 7 หมื่นล้านบาท และปี 2564 เพิ่มอีกเป็น 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปี 2565 นี้ น่าจะทะลุ 1.5 แสนล้านบาทอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีมูลค่าการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ที่คาดว่า ในช่วง 4 ปี ระหว่างปี 2562 – 2565 นี้ ยอดรวมมีปริมาณมากถึง 1.5 ล้านตันเศษ สามารถนำเงินตราเข้าประเทศได้อีกประมาณ 6 – 7 หมื่นล้านบาท

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ. ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะประธานอนุกรรมการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฯ ภายใต้ กนป. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการ ตามมาตรการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำมันด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ อันเป็นการเพิ่มความต้องการใช้ (อุปสงค์) ภายในประเทศ เพื่อใช้ทดแทนพลังงานทางเลือกไบโอดีเซลที่มีแนวโน้มลดลงสืบจากการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างรวดเร็ว ยังนำมาใช้เป็นส่วนผสมของน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ (SAF) เพื่อลดการปลดปล่อยคาร์บอนฯ สู่ชั้นบรรยากาศ

โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ ในปี 2566 นี้ เชื่อว่า ปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำมันภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นพืชเศรษฐกิจต้นแบบของไทย ที่สร้างราคาได้ให้เกษตรกร มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ