วันนี้ 21 ธันวาคม 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. หรือ บิ๊กต่อ เผยความคืบหน้ากรณีนักโทษชายหลบหนีจากโรงพยาบาลนครศรีธรรมราชไปยังเทือกเขาบรรทัด เสี่ยแป้ง นาโหนด หรือ นายเชาวลิต (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี โดย บิ๊กต่อ นั้นให้ข้อมูลว่า การติดตามตัว เสี่ยแป้ง นาโหนด ล่าสุดจากการสืบสวนของตำรวจพบว่ารั้วลวดหนามที่ปรากฏในคลิปที่เสี่ยแป้งยืนถ่ายในคลิปเป็นรั้วที่กั้นระหว่างแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านที่มีพื้นดินติดกันไม่ใช่หมู่เกาะหรือมีทะเลขวางกั้นระหว่างประเทศทางใต้

โดยการตามล่าที่ผ่านมา ได้ประสานกับผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย ให้มีการออกหมายแดงดำเนินคดีกับ เสี่ยแป้ง โดยประสานผ่านทางกองต่างประเทศและตำรวจสากล ซึ่งไม่ใช้วิธีนำกำลังเข้าไปจับ แต่เป็นการขอความร่วมมือให้ประเทศเพื่อนบ้านดำเนินการเอง

ส่วนกรณีที่ เสี่ยแป้ง ได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับตนนั้น บิ๊กต่อ เชื่อเรื่องนี้หรือไม่ บิ๊กกล่าวว่า เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับคำพูดดังกล่าว แต่ทางตำรวจมีตัวเชื่อมหรือบุคคลที่ไว้ใจสามารถติดต่อกับเสี่ยแป้งได้ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้เพราะยังไม่รู้ว่า นช.แป้ง อยู่จุดไหนของประเทศเพื่อนบ้าน

• ไร้วี่แวว! ‘หมวด ต.’ หลัง ‘เสี่ยแป้ง นาโหนด’ เปิดใจรอบ 2 มีชื่อร่วมแก๊งปล้น

• เสี่ยแป้ง งานเข้า! ศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 1 หลังตำรวจได้หลักฐานใหม่

• ทนายดัง เช็กแล้ว! คลิป เสี่ยแป้ง นาโหนด แฉอัยการ บ. อาจเป็นเรื่องจริง

ใครช่วยเหลือต้องได้ได้รับโทษทั้งหมด

โดยระยะเวลาที่คาดไว้คือหลังปีใหม่ (2567) จะมีความชัดเจนมากขึ้นและจะมีการประสานให้ เสี่ยแป้ง เข้ามอบตัว พร้อมระบุ ที่ผ่านมาทางทีมสืบสวนสามารถดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่ให้การช่วยเหลือ เสี่ยแป้งในการหลบหนีได้ทั้งหมด ส่วนในตอนนี้ ที่เสี่ยแป้งยังหลบหนีได้ อาจจะมีใครที่คอยให้ความช่วยเหลือ หรือมีท่อเลี้ยงหรือไม่ ส่วนตัวบิ๊กต่อเชื่อว่าข้อมูลตรงนี้ชุดสืบสวนมีข้อมูลอยู่แล้ว ดังนั้น หากพบว่าเป็นบุคคลก็จะดำเนินคดีทั้งหมดโดยไม่ละเว้นแน่นอน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา  ศาลจังหวัดพัทลุง ออกหมายจับ นายเชาวลิต (สงวนนามสกุล) หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด เพิ่มอีก 1 คดี  ในข้อหา “ร่วมกันมีอาวุธปืน แบบที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร หรือเหตุจำเป็นเร่งด่วนสมควรแก่พฤติกรรม”

ที่มา : ข่าวสด