บิ๊กตู่ ถึงม่อนแจ่มพร้อมฝนตก ลั่นประชาชนอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งไม่ได้ ย้ำเปลี่ยนแปลงประเทศฐานต้องดี บ้านเมืองต้องสงบ เมินผลโพลบอกเปลี่ยนทุกวันดูแล้วปวดหัว
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 21 เม.ย.2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมคณะ และร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ ผู้สมัครส.ส.เชียงใหม่ เขต 5 เดินทางถึงสวนอีเดน บ้านหนองหอยเก่า หมู่ 7 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อพบปะชาวม่อนแจ่ม เพื่อรับฟังปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและการถือครองสิทธิที่ดินตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 11พ.ค. 2542 และปัญหาสิ่งแวดล้อม
โดยมีประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์เผ่าม้งและลีซู แต่งชุดประจำเผ่ารอต้อนรับ พร้อมกองเชียร์ชูป้ายภาพ พล.อ.ประยุทธ์ และข้อความว่า “กาเบอร์ 22 รวมไทยสร้างชาติ” และ “รักลุงตู่ กาเบอร์ 22”
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึง ได้เกิดฝนตก ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ สอบถามชาวม่อนแจ่มว่า “ก่อนผมมามีฝนตกหรือไม่” ซึ่งผู้มาต้อนรับ กล่าวว่า ไม่มี ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่อมยิ้ม
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับกลุ่มชาติพันธุ์ว่า ตนมาในอีกบทบาทหนึ่ง ในนามที่พวกเราเรียกกันว่า ลุงตู่ ความจริงตนไม่ใช่คนโหดร้ายใจร้าย ตนเป็นคนง่ายๆ เห็นใจคน เราได้วางโครงสร้างพื้นฐานไว้แล้ว แต่ตนจะพูดอะไรมากไม่ได้ วันนี้พูดอะไร ต้องระวังที่สุด เพราะเป็นช่วงหาเสียง และหลายคนในที่นี้เห็นตนหน้าตาดุในโทรทัศน์ตอนเช้า ตอนกลางคืนโมโหอะไรตลอด ปกติตน เป็นคนอารมณ์ดี ถ้าไม่มีคนยั่วอารมณ์ตนมาก ก็ไม่โมโห บางทีงานเยอะ ติดโน้น ติดนี่ ติดอะไรนักหนา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนต้องดูแลทั้งหมด 21 กระทรวง ข้าราชการ 2 ล้านกว่าคน ซึ่งตนต้องกำกับดูแลในส่วนนโยบายที่ทำมาแล้ว ทำต่อ มีอะไรใหม่ ต้องทำเพิ่ม เรียกว่าทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ บวกพลัสใหม่เพิ่มเข้าไปด้วย ให้ทุกคนอยู่ดีกินดีมากยิ่งขึ้น เพราะการจะสร้างบ้านหลังหนึ่งฐานต้องแน่น แข็งแรง จากนั้นต้องทำเสา ทำโครงสร้าง หลังคาและผนัง ฉะนั้นประเทศไทยต้องโตแบบนี้ โตจากข้างล่าง ข้างบนหลังคา ให้อบอุ่นปลอดภัยทุกคน อยู่ในร่มเงาฐานดีแน่น ประเทศไทยต้องเป็นแบบนี้
“เราทะเลาะกันไม่ได้ ทะเลาะกันเองไปกันใหญ่ บ้านเมืองแตกสาแหรกขาด ถ้าแตกกันจะอยู่ยังไง จะหวังอะไรจากใครได้อีก ถ้าไม่หวังจากสิ่งที่ทำไปแล้ว ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นมาและถึงจะทำต่อไปได้ ยอมรับว่าหลายอย่างดีขึ้นมาก พอดีขึ้นมาก ปัญหาใหม่ก็ตามมา เราจะอยู่แบบเดิมไม่ได้ เราจะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งไม่ได้อีกแล้ว การจะเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องเปลี่ยนแปลงบนพื้นฐานความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่ใช่วุ่นวายไปทั้งหมด มันทำอะไรไม่ได้เลย มีตัวอย่างมาแล้วให้เห็น ขอให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้แก้หลายเรื่องและรับหมดปัญหาที่ดิน ซึ่งนโยบายของพรรคและนโยบายของรัฐบาลก็มี วันนี้จึงมาอยู่พรรคนี้ เพราะคิดตรงกันจะได้ทำอะไรต่อ ตนถามว่าเคยมีรัฐมนตรี อดีตนายกฯมานั่งตรงนี้ไหม วันหน้าไม่รู้จะมีอีกหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ตน ไม่ใช่ตน ไม่รู้ ถ้าตนมาได้ก็มา ถ้ามาได้ ตนทำให้หมดทุกอย่าง วันนี้ต้องมองดูประเทศอื่นเราต้องคิด เปิดโทรทัศน์ดูต่างประเทศ โพลไม่ต้องฟังมาก เวียนหัว ไม่ต้องไปฟังมาก เปลี่ยนทุกวัน วันนี้อยู่ที่ใจต่อใจถึงกันหรือเปล่า
ปัจจุบันกำลังไล่แก้ปัญหาทั้งประเทศ ตอนนี้แนวคิดก็คือ ใครเป็นเจ้าของที่ดินแน่นอนและหาวิธีอยู่ร่วมกัน ที่ผ่านมารัฐบาลทำอยู่และจะทำต่อไปหากได้เป็นรัฐบาลครั้งหน้า รัฐบาลทำมาตลอดและไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำ แต่รัฐบาลทำมา 8 ปี แล้ว จะเห็นได้ว่าไม่เคยมีใครทำเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องยาก แต่รัฐบาลภายใต้การนำของตน ก็พยายามทำ อาจต้องใช้เวลา หากได้เป็นรัฐบาลอีกก็จะทำต่อไป เพราะ ที่ดินที่มีปัญหามีอยู่ทั่วประเทศ
“ผมให้นโยบายไป คือหาวิธีที่ดีที่สุดที่ไม่ทำให้คนเดือดร้อน ผมทำเพื่อตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน เพราะเกิดที่นี่ หากินที่นี่แล้วจะไปตายที่ไหน นี่คือที่ดินที่เกิดที่อยู่ที่กินที่ตาย ช่วยกันรักษาที่ดินแผ่นนี้ไว้ แผ่นดินทองอย่าทำให้แตกแยก ถ้าเรามีหลักคิดของเราบ้านเมืองก็จะไปได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมายังตลาดนัดศรีบุญเรือง เพื่อพบปะประชาชน ที่มารอต้อนรับ โดยทักทายประชาชนอย่างเป็นกันเอง มีพ่อค้าแม่ค้าและคนมามาจ่ายตลาดขอถ่ายรูปด้วยจำนวนมากบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก
