บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ร่ายยาวในนงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 เผย หวัง ไทยมีเมืองอัจฉริยะ ลั่นพร้อมรับฟัง ปรับปรุงแก้ไข ไม่ได้เป็นเผด็จการ-ไม่ใช่คนดื้อ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 พ.ย. ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “จับมือ รวมใจ พาไทยรอด” ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39

โดยมีพล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาชิกหอการค้า ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมงาน

โดยเมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงเจ้าภาพได้เปิดเพลงบ้านเกิดเมืองนอนต้อนรับ ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับยิ้มพอใจ ยกมือรับไหวทักทายผู้ร่วมงานและปรบมือตามจังหวะเพลง ทั้งนี้ ก่อนการปาฐกถานายสนันได้มอบสมุดปกขาวสรุปผลการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศให้กับนายกรัฐมนตรีอย่างไรก็ตาม สำหรับงานดังกล่าวนอกจากจะมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดแล้ว ผู้ร่วมงานทุกคนจะต้องมีผลตรวจ ATK ยืนยันตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขด้วย

ทั้งนี้ในบางช่วง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรวดเร็วในวันนี้เป็นโรคแห่งดิจิทัล เทคโนโลยี มาพร้อมกับสงครามไซเบอร์ และเฟกนิวส์ วันนี้เห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงการใช้โปรแกรมต่างๆ ติ๊กต็อกบ้าง อะไรบ้าง เอาหน้าไปต่อตรงนั้นตรงนี้ บางครั้งมันไม่สมควร ละเมิดคนอื่นเขา ผิดกฎหมาย แต่บอกว่าไม่เจตนา แล้วจะมีกฎหมายไว้ทำอะไร ประเทศต้องอยู่ด้วยกฎหมาย ตนไม่จำเป็นต้องไปสั่งใครทั้งสิ้น เรื่องกฎหมายเป็นหน้าที่ของเขา ของหน่วยงานอื่นที่เขาทำ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การพลิกโฉมประเทศไทยและสิ่งที่ตนพูดมาทั้งหมดอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ตนทำคนเดียวไม่ได้ ไม่มีใครทำสำเร็จได้คนเดียว จะใครก็แล้วแต่มาทำเถอะ ไม่ได้สงวน ทำให้ได้แล้วกัน เขียนกันมา 12 แผนแล้ว มีรัฐบาลนี้แหละที่สนใจให้ความสำคัญกับแผนที่ 12 และ 13 หลายอย่างสามารถจับต้องได้ ตนเก็บไว้หมด แต่ก่อนตนไม่รู้ ต้องสร้างการรับรู้ ประเทศไทยมีสิ่งดีงามหลายอย่างมากกว่าที่จะมาขัดแย้งกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลกำลังทำแพลตฟอร์ม ตนเร่งเทคโนโลยีให้ทำให้ได้ ในขณะที่ต้องได้รับความนิยม รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยร่วมมือกับคนรุ่นใหม่ในการทำ ต้องร่วมมือกันให้ได้ การสร้างเมืองอัจฉริยะ หลายคนมองว่ามันแย่ บ้านเราไม่ได้แย่หรอก วันนี้ตนเปิดในยูทูป เห็นเรื่องการท่องเที่ยวในบ้านเราเยอะแยะ แต่ก่อนไม่มี ทุกอย่างอยู่ในสายตาชาวโลกอยู่แล้ว และอะไรที่ไม่ดี ลองมาดูเพื่อจะแก้ไข เราต้องเปิดโลกภายนอกด้วย ไปต่างประเทศทุกครั้ง

ตนไม่ได้ไปสนุกสนานเพลิดเพลิน นั่งรถตนก็ดูถนนหนทาง ความสะอาด สำหรับเมืองอัจฉริยะ ผมคาดหวังว่าอยากให้ไทยมีสักเมืองหนึ่งเหมือนต่างประเทศ มีรถไฟฟ้าที่ไม่มีคนขับ โดยเป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ สร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หลายประเทศชมว่าไทยเก่งหลายอย่าง ทำสำเร็จหลายเรื่อง อยู่ที่คนไทยจะทำให้ดีที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หอการค้าถือเป็นภาคีสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ทำงานร่วมกับรัฐบาล เอกชน โดยไม่มีข้อขัดแย้งกัน ทั้งหมดต้องมีการศึกษาข้อกฎหมาย ทำอะไรก็ตามต้องเอาข้อกฎหมายมาดูก่อน มีทั้งกฎระเบียบ กฎกระทรวง มีกระบวนการร่วมกันคิดร่วมกันทำ ร่วมกันรับผิดชอบ

“ผมยินดีรับฟังจากท่าน รับฟังจากพื้นที่ พร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไข ผมไม่ใช่คนดื้อหรอกครับ ผมจะพูดอะไรไป ผมก็คิดในใจอยู่ตลอดว่าจะทำได้แค่ไหน แต่ในใจผมคิดตลอด ผมจะทำอะไร ทำได้แค่ไหน การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และถ้าเขาจะให้เราแก้ ก็ต้องถามเขาว่าอยากให้แก้อะไร แก้อย่างไร ตรงไหน แล้วต้องอธิบายได้ว่าแก้แล้วจะเกิดตรงนี้ คุยกันแบบนี้จะได้เบาลงบ้าง

หลานๆ มีอะไรจะถามไหม ลุงไม่ใช่คนใจร้าย ไม่ใช่คนเผด็จการ ทำทุกวัน แต่จะทำได้แค่ไหนเท่านั้นแหละ การพูดวันนี้คงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย อย่าคิดว่าไม่มีประโยชน์ ไม่มีสาระ นี่แหละคือสาระของผม งานเยอะ ปัญหาเยอะ และคิดเยอะ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือ How to และทำให้สำเร็จ นั่นแหละคือสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ จับมือเดินหน้าไปด้วยกัน”พล.อ.ประยุทธ กล่าว