บิ๊กตู่ มุ่งทำภาครัฐโปร่งใส ลั่น ไม่เคยแทรกแซงองค์กรอิสระ อ้อนขอความเป็นธรรม

Home » บิ๊กตู่ มุ่งทำภาครัฐโปร่งใส ลั่น ไม่เคยแทรกแซงองค์กรอิสระ อ้อนขอความเป็นธรรม



บิ๊กตู่ ร่วมมือ ปปช. มุ่งทำภาครัฐโปร่งใส ไร้ทุจริต ลั่น ไม่เคยแทรกแซงองค์กรอิสระ อ้อน ขอความเป็นธรรม ชี้ แม้เป็นนายกฯ มานาน แต่ทำทุกอย่างด้วยเจตนาบริสุทธิ์

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 พ.ย. 2565 ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำคณะผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับโล่เกียรติยศรางวัลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และรับมอบโล่เกียรติยศ รวม 25 รางวัล

นายกฯ แสดงความยินดีกับหน่วยงานที่ได้รับรางวัล พร้อมกล่าวว่า ตนให้ความสำคัญกับปัญหาการทุจริตเป็นอย่างยิ่ง รัฐบาลยินดีที่จะร่วมมือกับ ป.ป.ช. เพื่อขับเคลื่อนงานในการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตมาอย่างต่อเนื่อง การประเมิน ITA นั้น เป็นมาตรการสำคัญในการมุ่งเน้นการพัฒนาปรับปรุงหน่วยงานภาครัฐให้มีความโปร่งใส

นายกฯ กล่าวต่อว่า มีธรรมาภิบาล มีมาตรฐานในการปฏิบัติราชการ และให้บริการประชาชนโดยไม่เลือกปฏิบัติ และต้องเป็นที่ยอมรับของสาธารณชนทั่วไป โอกาสนี้ต้องขอแสดงความยินดีกับทุกหน่วยงานที่ได้รับรางวัล ถือเป็นสิ่งที่ยืนยันความสำเร็จ ในการพัฒนางานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของประเทศให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

“รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนตัวของผมเองนั้น มีเจตนารมณ์ที่จะแก้ปัญหาการทุจริตให้ได้มากที่สุดหรือไม่มีเหลืออีกเลย ผมระมัดระวังตัวเองอย่างเต็มที่ที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือก้าวล่วง และผมยืนยันว่าทำอย่างนี้มาตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ หวังว่าทุกคนจะช่วยกันแก้ไขปัญหา และทำอย่างไรเราจะได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากประชาชน

วันนี้เรามีปัญหามากพอสมควรในเรื่องของความเข้าใจ ฉะนั้น ป.ป.ช.จะต้องรักษามาตรฐานการดำเนินงานไว้ให้ได้ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีทั้งในส่วนของหน่วยงานภาครัฐ การพัฒนาการสร้างธรรมาภิบาลภาครัฐที่ดีให้ยิ่งขึ้นไป ขณะเดียวกันก็ต้องชักชวนเพื่อนฝูงพี่น้องมาช่วยกัน ทำให้ประเทศไทยมีชื่อเสียงได้รับการยอมรับจากในและต่างประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก ปัจจุบันปัญหาที่เป็นวิกฤตก็ได้เกิดขึ้น อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจและความขัดแย้งต่างๆ ที่ตามมา สิ่งสำคัญที่สุดรัฐบาลจำเป็นต้องเร่งแก้ไขเรื่องปัญหาโลกร้อน ตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็พยายามทำทุกเรื่อง และนำสิ่งต่างๆ มาขับเคลื่อน หลายอย่างประชาชนเข้าใจบ้างและไม่เข้าใจบ้าง แต่รัฐบาลยืนยันว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด

นายกฯ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือ การทำอย่างไรให้กลไกและองค์กรของเราเป็นองค์กรที่สะอาด มีธรรมาภิบาล ซึ่งต้องทำทั้งในเรื่องการสร้างความรับรู้ แนวปฏิบัติ หลักการกฎหมาย และการแนะนำ โดยต้องระมัดระวังอย่างที่สุด เพราะกระบวนการตรวจสอบในปัจจุบันมีเยอะมาก

“เรื่องเหล่านี้ผมไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในกระบวนการใดๆ เลย คนละอำนาจอยู่แล้ว ผมจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ผมมีหน้าที่บริหารราชการให้โปร่งใสและดีที่สุด การที่ผมเป็นนายกฯ มาอาจจะดูยาวนาน แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผมนิดหนึ่งว่า ผมพยายามทำทุกอย่างด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ ขอเรียนอีกครั้งว่าผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ตราบใดที่ผมยังมีหน้าที่อยู่ตรงนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า กฎกติกาต้องปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะบางครั้งข้อกฎหมาย ระเบียบต่างๆ อาจจะล้าสมัย สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาอุปสรรคในการทำงาน รัฐบาลยินดีที่จะร่วมมือกับป.ป.ช. ในการแก้ปัญหาการทุจริต ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของชาติ ถือเป็นวาระแห่งชาติอย่างหนึ่ง เพราะตนไม่ต้องการให้เกิดขึ้น ยืนยันว่าตนพร้อมที่จะทำงานให้ถูกต้องให้เป็นไปตามกฎระเบียบทุกประการ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตลอดเวลาในการรับราชการที่ผ่านมา ตนจึงพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้ทุกหน่วยงานมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ ใช้งบประมาณอย่างประหยัดคุ้มค่า ตนสั่งงานแบบนี้ตลอด เวลาจะอนุมัติโครงการหรืองบประมาณก็จะเขียนไว้ทั้งหมด และเป็นหน้าที่ของหน่วยงานปฏิบัติที่จะต้องรับไปดำเนินการให้ได้ตามนั้น ถ้าไม่เป็นไปตามนั้นก็จะถูกกระบวนการตามกฎหมายดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหน่วยงานที่ได้รับรางวัลโล่เกียรติยศฯ ประกอบด้วย 1.หน่วยงานที่มีผลการประเมินสูงที่สุด จำนวน 11 รางวัล ได้แก่ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กรมการปกครอง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี จ.อ่างทอง องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร เทศบาลตำบลจังหาร (จ.ร้อยเอ็ด) องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านพลับ (จ.พระนครศรีอยุธยา) และองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะอาด (จ.สระบุรี)

2.หน่วยงานที่มีพัฒนาการสูงที่สุด จำนวน 10 รางวัล ได้แก่ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา กรมการขนส่งทางราง องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จ.กำแพงเพชร องค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท เทศบาลตำบลน้ำปลีก (จ.อำนาจเจริญ) และองค์การบริหารส่วนตำบลหมูม้น จ.ร้อยเอ็ด และ 3.จังหวัดที่มีการขับเคลื่อนการประเมิน ITA บรรลุเป้าหมายสูงสุด จำนวน 4 รางวัล ได้แก่ นครสวรรค์ บึงกาฬ สิงห์บุรี และภูเก็ต

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ