‘บิ๊กตู่’ ถึงไทยรับต้นทุนปุ๋ยแพง เจอเหมือนกันหมด ย้ำไทยต้องเป็นแหล่งอาหารโลก

Home » ‘บิ๊กตู่’ ถึงไทยรับต้นทุนปุ๋ยแพง เจอเหมือนกันหมด ย้ำไทยต้องเป็นแหล่งอาหารโลก


‘บิ๊กตู่’ ถึงไทยรับต้นทุนปุ๋ยแพง เจอเหมือนกันหมด ย้ำไทยต้องเป็นแหล่งอาหารโลก

‘บิ๊กตู่’ ถึงไทย รับต้นทุนปุ๋ยแพง เจอเหมือนกันหมด ย้ำไทยต้องเป็นแหล่งอาหารโลก แนะเอาเวลาไปแก้ไขอย่าว่ากันไปมาไม่ได้ประโยชน์ เตรียมเชิญต่างชาติประชุมความมั่นคงอาหารไทยเจ้าภาพปีหน้า

เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 13 พ.ย.2565 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังเดินทางกลับจากการร่วมประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (East Asia Summit: EAS) ครั้งที่ 17 ที่ประเทศกัมพูชา ว่า การประชุมเป็นไปด้วยดีทางกัมพูชามีการเตรียมการและจัดการประชุมได้ยอดและเป็นที่พอใจของผู้ที่มาประชุมทุกท่าน โดยมีการประชุมทั้งหมด 16 วาระ ซึ่งพวกเราได้มีการแสดงความคิดเห็นกันในที่ประชุมอย่างเต็มที่ และในส่วนของการประชุมกับสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ )สิ่งที่ตนจับประเด็นได้ก็ คือ

เขามีความรู้สึกว่าเป็นโอกาสของอาเซียน โดยเฉพาะในเรื่องของการเกษตร เพราะต่างประเทศมีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อและเรื่องสงคราม เขาบอกว่าปีนี้และปีหน้าเขา จึงบอกว่าในปี 2565 และปี 2566 เป็นโอกาสที่ดีของอาเซียนในเรื่องการเกษตรที่ยังมีอยู่ ถึงแม้ว่าเราจะได้รับผลกระทบ แต่ก็ไม่เท่ากับเขา สิ่งที่เรากังวลคือจะทำเรื่องนี้อย่างไรในการเตรียมการเกษตรเรื่องอาหาร เรื่องการเกษตร และมีปัญหาอย่างเดียว คือ เรื่องปุ๋ย และเรื่องต้นทุนการผลิต

บน.6

ซึ่งเราจะต้องกลับมาคุยกัน เพราะทุกประเทศที่ไปร่วมประชุมมีปัญหา เรื่องปุ๋ยแพงเหมือนกันหมด ซึ่งในปีหน้าปัญหาเรื่องอาหารจะหนักกันทั้งหมด แต่ก็ไม่เท่าเราเรายังมีอาหารการกิน แต่ประเทศไทยจะต้องเป็นแหล่งอาหารของโลกให้ได้ ฉะนั้นต้องมาดูว่าจะเดินกันอย่างไร เพราะเราพร้อมในเรื่องสถานที่ปลูก แต่ปัญหาคือต้นทุนแพงขึ้น เหล่านี้คือการรับฟังข้อมูลมา เพื่อที่จะนำไปแก้ไข อย่าเอาเวลาไปว่ากันไปกันมาไม่ได้ประโยชน์

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องของบรรยากาศสันติภาพจะทำอย่างไรให้เราอยู่ร่วมกัน อะไรมีปัญหาก็ต้องพูดคุยกัน หาวิธีแก้ปัญหาดีกว่าขัดแย้งกัน จึงต้องใช้หลักการของอาเซียนอยู่แล้ว สำหรับเรื่องของเมียนมานั้น ได้เน้นถึงเรื่องของมนุษยธรรม และการหาวิธีการที่จะทำให้สถานการณ์สงบเรียบร้อยให้ได้โดยเร็ว เพราะเมียนมาคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา สิ่งที่เราต้องระมัดระวังคือการดูแลรักษาความปลอดภัยซึ่งทุกคนก็ทราบดีว่ามีอยู่หลายกลุ่ม เป็นสิ่งที่เราต้องระมัดระวังอย่างที่สุดในการที่จะแก้ไขปัญหาตรงนี้

ประชุม

” สิ่งสำคัญ ที่ได้เน้นย้ำไปทางกระทรวงต่างประเทศก็คือการดูแลเรื่องของมนุษยธรรม การดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยซึ่งเวลาที่เขาได้รับผลกระทบและค่ามายังประเทศไทยเจ้าหน้าที่ของเราก็ต้องดูแล และเราไม่ได้บังคับเขา ทุกครั้งเค้าก็จะเดินทางกลับออกไปทุกครั้ง เราไม่ต้องไปขับไล่เขากลับ เพราะทุกคนก็อยากกลับไปอยู่บ้านของเขา ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่น่ากังวลอยู่เหมือนกัน อย่างไรก็ตามเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องจบลงได้ในทุกๆเรื่อง สำหรับบทบาทของเราซึ่งมีชายแดนติดกันนั้นก็ต้องดูแลให้ดีที่สุดเรื่องอื่นก็เป็นกลไกที่ต้องขับเคลื่อนกันต่อไป ”

เน้นย้ำ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ สิ่งสำคัญที่มีการตั้งประเด็น จากการประชุมที่กัมพูชาคือการรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในปัจจุบันหลังสถานการณ์โควิด -19 ทั้งเรื่องความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ของโลก สงคราม สิ่งนี้เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง เหล่านี้ เราจะรับมือกันอย่างไร ซึ่งทุกประเทศก็เตรียมพร้อมรับมือเรื่องตรงนี้ จะทำอย่างไรให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด

หากจะบอกว่าไม่มีเลยไม่เดือดร้อนเลยก็คงจะทำไม่ได้ ซึ่งปกติเราก็มีปัญหามากอยู่บ้างพอสมควรแล้ว พอมาเจออันนี้เข้าไปก็หนักขึ้นมาหน่อย ขอให้ช่วยกัน ช่วยตนบ้างว่าจะต้องทำอย่างไร อย่างไรก็ตาม เราได้เตรียมที่จะเชิญนานาชาติประชุมความมั่นคงด้านอาหารในต้นปีหน้า ที่ประเทศไทยและก็จะเชิญสมาชิกอาเซียนมาด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ