บิ๊กตู่หวัง คาบสมุทรเกาหลี ปลอดนิวเคลียร์ มีสันติภาพที่ยั่งยืน

Home » บิ๊กตู่หวัง คาบสมุทรเกาหลี ปลอดนิวเคลียร์ มีสันติภาพที่ยั่งยืน



บิ๊กตู่หวัง คาบสมุทรเกาหลี ปลอดนิวเคลียร์ มีสันติภาพยั่งยืน เข้าพบปธน.ยุน ซ็อก-ยอล เกาหลีใต้ เสียใจเหตุอิแทวอน พร้อมร่วมมือเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้น

วันที่ 11 พ.ย.2565 ที่โรงแรมสกคา กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 23 พร้อมผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ (เมียนมาไม่เข้าร่วม) นายยุน ซ็อก-ยอล (Mr. Yoon Suk Yeol) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี และเลขาธิการอาเซียน เพื่อทบทวนความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลีในรอบปีที่ผ่านมา กำหนดทิศทางความสัมพันธ์ รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น โดยหวังคาบสมุทรเกาหลีที่ปราศจากนิวเคลียร์ ส่งเสริมสันติภาพยั่งยืน

นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้ สู่การประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลีครั้งแรก โดยระบุว่า ไทยพร้อมสนับสนุนบทบาทของเกาหลีใต้ในการดำเนินนโยบายทางการทูตเชิงรุกที่สร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค

โดยพร้อมยินดีที่เกาหลีใต้คงให้ความสำคัญกับอาเซียน และสนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียนและสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่อาเซียนเป็นศูนย์กลาง มียุทธศาสตร์ที่มุ่งขยายความร่วมมือในทุกมิติกับอาเซียน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง รวมทั้งความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ

ส่วนแนวทางการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน และการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายร่วมกันในอนาคต 3 ประการ คือ สาธารณสุขที่มั่นคงและครอบคลุม การพัฒนาด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องและการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ,การฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืน และส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนที่ใกล้ชิดและแน่นแฟ้น การไปมาหาสู่ และการเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกันในทุกระดับ

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ไทยมีเจตนารมณ์ในการส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพที่ยั่งยืนบนคาบสมุทรเกาหลี โดยหวังจะเห็นการเจรจามีความคืบหน้าจนนำไปสู่คาบสมุทรเกาหลีที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ ไทยมุ่งมั่น และพร้อมที่จะรักษาบทบาทที่สร้างสรรค์ โดยเฉพาะการผลักดันความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจทางยุทธศาสตร์ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ของทุกประเทศในภูมิภาค

จากนั้น เวลา 17.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา พล.อ.ประยุทธ์ หารือกับ นายยุน ซ็อก ย็อล ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกภายหลังจากที่ประธานาธิบดียุนฯ เข้ารับตำแหน่ง และยืนยันความพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือกับรัฐบาลเกาหลีใต้

นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีที่ได้พบกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก โดยกล่าวว่า ยินดีกับการครบรอบ 10 ปี ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกันในปีนี้ รวมถึงการย่างเข้าสู่การครบรอบ 64 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต รัฐบาลไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาลเกาหลีใต้ขับเคลื่อนความสัมพันธ์สู่ความมั่นคง และยั่งยืน โดยนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวเชิญประธานาธิบดีเยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสแรกที่ฝ่ายสะดวก ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่ย่านอิแทวอน

ด้านประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี กล่าวว่า ยินดีที่ได้พบหารือกันในวันนี้ ถือเป็นจังหวะและโอกาสที่ดีและความหมายในการครบรอบ 10 ปี ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ และการครบรอบ 64 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ประธานาธิบดีรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมเอเปคด้วยตนเอง หวังว่าภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี การเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคของไทยจะประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจ และสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี

โอกาสนี้ยังได้กล่าวขอบคุณพระกรุณาธิคุณสำหรับข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัย สารแสดงความเสียใจของนายกรัฐมนตรี รวมถึงจากภาคส่วนต่าง ๆ ของไทย กรณีย่านอิแทวอน เกาหลีใต้จะให้การดูแลและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเต็มที่

ยืนยันว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับไทยและอาเซียน พร้อมเดินหน้าและรักษาความสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรที่เก่าแก่ระหว่างกัน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ในระดับประชาชนกับประชาชนที่เป็นจุดเชื่อมสำคัญจากการชื่นชอบในวัฒนธรรมของกันและกัน

จากนั้น ผู้นำทั้งสองฝ่ายยังได้หารือประเด็นความร่วมมือที่สนใจร่วมกัน โดยผู้นำทั้งสองหวังที่จะได้แลกเปลี่ยนการเยือนในทุก ๆระดับระหว่างกัน ไทยและเกาหลีใต้พร้อมส่งเสริมและเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม โดยทั้งสองยินดีที่ทั้งสองประเทศต่างผ่อนคลายมาตรการเดินทางจากสถานการณ์โควิด-19 หวังให้ไทยและเกาหลีใต้จะรื้อฟื้นการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงให้กลับมามีพลวัตอีกครั้ง นอกจากนี้

ไทยและเกาหลีใต้ยินดีที่ความสัมพันธ์ในระดับประชาชนมีความใกล้ชิด โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอให้ช่วยให้ดูแลคนไทยที่ไปทำงานและเดินทางไปท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ ด้านรัฐบาลไทยพร้อมดูแลคนเกาหลีใต้ที่อาศัยในไทย และนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ไทยเช่นกัน

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องเร่งเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับผลกระทบจากโควิด-19 และสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก โดยไทยเร่งผลักดันกลยุทธ์ “3 แกนสร้างอนาคต” ในการพัฒนาประเทศ เน้นการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และภาคการธนาคาร ซึ่งสอดคล้องกับความสนใจ ศักยภาพและจุดแข็งของเกาหลีใต้

โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนมากขึ้นในพื้นที่ EEC โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และอุตสาหกรรมที่เกาหลีใต้มีความเชี่ยวชาญ ด้านภาคเอกชนเกาหลีใต้หลายบริษัทก็มีความสนใจและหวังที่จะลงทุนใน EEC จึงได้ขอให้ไทยช่วยดูแลภาคเอกชนด้วย

ประเด็นความร่วมมือในอนุภูมิภาค และภูมิภาค ไทยยินดีที่ประธานาธิบดีให้ความสำคัญกับอาเซียน รวมทั้งการสนับสนุนความเป็นแกนกลางของเซียน และสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง โดยเกาหลีใต้ยืนยันพร้อมสนับสนุนความเป็นแกนกลางของเซียน และพร้อมเสริมสร้างความร่วมมือกับอาเซียนให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณเกาหลีใต้ที่ให้การสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยมาตลอดทั้งปี หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากเกาหลีใต้ต่อไป และไทยพร้อมร่วมมือกับเกาหลีใต้ในกรอบเอเปค และยินดีอย่างยิ่งที่ไทยกับเกาหลีใต้ได้จัดทำแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกันในระยะ 5 ปี (ปี 2565 – 2570) เพื่อสอดประสานยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของทั้งสองฝ่ายต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ