บิวกิ้น แจงเหตุ ฟ้องรุ่นพี่ร.ร.เก่า โพสต์เท็จทำเสียหาย อยู่ขั้นตอนไกล่เกลี่ย เผยปีชง เตรียมทำบุญพร้อมครอบครัว
จากกรณีที่นักร้องหนุ่ม บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ถูกขุดคุ้ยวีรกรรมสมัยเรียน ถึงประเด็นข้อความที่เคยบูลลี่เพื่อนในวัยเรียน ซึ่งเป็น LGBTQ+ จนเจ้าตัวออกมาขอโทษและยอมรับผิดด้วยใจจริง และได้โทร.ไปขอโทษเพื่อนเรียบร้อย โดยเพื่อนก็ไม่ได้ติดใจอะไร
กับอีกหนึ่งประเด็น ที่มีแอ๊กเคานต์ทวิตเตอร์หนึ่ง ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่อ้างว่าบิวกิ้นได้บูลลี่รุ่นพี่และได้พาดพิงถึงชื่อบริษัทของบิวกิ้น โดยทางทีมงานบริษัท Billkin Entertainment ได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เป็นความจริง จึงได้ร่อนจดหมายออกมาชี้แจง และได้ฟ้องผู้กระทำดังกล่าว
ล่าสุด บิวกิ้น ในฐานะ พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของ “Daikin” ได้มาร่วมงาน “Daikin Perfecting the Air for All” เปิดตัวแคมเปญการตลาดประจำปี 2023 เลยได้เปิดใจถึงทั้ง 2 กรณีข้างต้น พร้อมทั้งเผยถึงเรื่องที่ล่าสุดเพิ่งไปเข้าเฝ้าสักการะสมเด็จพระสังฆราชฯ เนื่องจากตนเป็นปีชงด้วย ปีที่ผ่านมาก็เจออะไรมาเยอะ เลยถือโอกาสสะเดาะเคราะห์ไปในตัว
ล่าสุดไปทำบุญมา เนื่องในโอกาสอะไร? “จริงๆ ไม่ได้เนื่องในโอกาสอะไร พอดีมีพี่ผู้ใหญ่คนหนึ่งเขาจะไปอยู่แล้ว เขาเอ็นดูผมกับพีพีเลยชวนอยากให้เราไปด้วย ก็ไปล้างห้องน้ำที่วัดครับ แล้วก็ไปพบสมเด็จพระสังฆราชครับ ทำบุญต้อนรับปีใหม่ด้วย จริงๆ ไม่ได้คิดอะไร พอพี่เขาชวนเราก็ไป เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ล้างห้องน้ำวัด เป็นประสบการณ์ใหม่ดี แล้วก็เป็นการล้างห้องน้ำครั้งแรกในชีวิตด้วย ผมว่ามันสนุกดีนะ มันขัดๆ ฉีดๆ”
เรียกว่าเป็นการทำบุญสะเดาะเคราะห์ด้วยไหม? “ก็ได้นะครับ จริงๆ ปีนี้ก็มีชงอยู่เหมือนกัน ก็ถือโอกาสไปเลย แต่ไม่ได้ขอพรอะไรเป็นพิเศษเลยครับ ก็เข้าไปแบบปล่อยใจให้สบายๆ พี่เขาบอกว่าให้เข้าไปแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก (สมเด็จพระสังฆราชท่านให้พรอะไรเราบ้าง?) จริงๆ ก็ไม่ได้ให้พรอะไรมาก ส่วนใหญ่ท่านก็จะพูดคุยอะไรแบบนี้มากกว่า พรมน้ำมนต์แล้วก็กลับ ไม่ได้ขอพร แค่เข้าไปกราบท่านมากกว่า”
ที่บอกว่าปีชง เราชงหนักขนาดไหน “ไม่รู้ว่าหนักขนาดไหน แต่ปีนี้มาก็ใช้ได้อยู่ ถามว่าเชื่อไหม ก็ฟังหูไว้หูครับ ไม่ได้เชื่อขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่ แต่พอได้ทำบุญก็เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจครับ (จะไปแก้ชงจริงจังเลยไหม?) ที่บ้านจะมีแผนกตรวจสอบสมาชิกที่ชงอยู่แล้ว ทีมอาม่าก็จะไล่วันเกิดลูกๆ หลานๆ ดู ว่าคนไหนปีนี้ชงไม่ชง แล้วก็จะเอาพิธีมาทำให้ที่บ้าน แล้วที่บ้านผมก็จะมีที่ที่เขาไปเป็นประจำ ผมก็จะไปกับเขา”
ล่าสุดค่ายเราก็ออกหนังสือฟ้องแล้ว ยื่นฟ้องไปกี่กรณี? “กรณีเดียวครับ ตามที่แจ้งไปคือมันเป็นเรื่องที่เขามาพูดถึงเราในตอนเรียน ซึ่งเราก็มีการตรวจสอบ จริงๆ ผมโทร.ไปคุยกับเขาเอง เพราะเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนผม คุยถามเคลียร์ใจกัน เริ่มแรกเราก็คุยกันแบบคนกันเองนะ จริงๆ ผมไม่รู้จักเขา แต่เขาเรียนโรงเรียนเดียวกัน เราก็บอกว่าอาจจะต้องให้พี่โพสต์ขอโทษหน่อยนะ เพราะหนึ่งคือผมก็จำไม่ได้ เขาก็จำไม่ได้ เราไม่สามารถพิสูจน์ความจริงได้”
“สุดท้ายผมก็เลยให้เขาติดต่อบุคคลที่สามที่เขากล่าวถึง เขาก็ไปทำแชทปลอมมา แต่เราจับได้ เราก็รู้สึกว่าพอไม่ได้โปร่งใสที่จะคุยกัน จริงๆ การฟ้องเป็นเหมือนการป้องกันตัวมากกว่า เราก็รักษาสิทธิ์ว่าถ้าเราไว้ใจเขาไม่ได้ เราขอดำเนินการไว้ก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้ขึ้นสู่ชั้นศาลครับ แต่เขาก็หยุดแล้วครับ จริงๆ เขาโพสต์ขอโทษเรียบร้อยแล้ว อันนี้ก็เป็นเรื่องไกล่เกลี่ยกันมากกว่า”
แล้วความรู้สึกเราตอนนี้มันดีขึ้นไหม? “ก็ดีขึ้นนะครับ ไม่ได้ติดใจกับเรื่องนี้ขนาดนั้น แต่พอดีเขาดันไปกล่าวอ้างอีกคนหนึ่ง ซึ่งอีกคนหนึ่งผมดันรู้จักเขา เขาก็เลยออกมาเล่าในมุมเขา ผมก็ไม่ได้ติดใจ แต่ในมุมหนึ่งผมก็สงสารเขาด้วย หลังจากฟ้องไปก็ยังไม่ได้ติดต่อเลย ได้เคลียร์แล้วก็สบายใจขึ้น ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบมีเรื่องคดีความ มันคาใจนิดหนึ่ง แต่ก็ทำดีที่สุดแล้ว (ก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องฟ้องไปแล้วใช่ไหม?) แต่สุดท้ายก็ไม่เคยไปถึงขั้นนั้นเลย จะจบที่ไกล่เกลี่ย”
เรื่องในอดีตเรารู้สึกยังไงบ้าง ที่ตอนนี้มันโดนขุดกลับมา จริงบ้างไม่จริงบ้าง? “พอเราใช้ชีวิตไป ในบางเรื่องที่เราได้รับการ EDUCATE มากขึ้น หรือสังคมได้รับการ EDUCATE มากขึ้น เราก็มีจุดด่างพร้อยกันหมดแหละ ผมก็มีข้อผิดพลาดมากมายในชีวิตที่ผ่านมา มันก็เป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับ แล้วในฐานะของคนคนหนึ่ง”
“ถ้าเราทำจริง แล้วในวันนี้มันถูก EDUCATE ว่าสิ่งนี้มันไม่เหมาะสม มันเข้าใจได้ และก็ยอมรับได้ ก็ยอมรับว่าเราเป็นยังไงในวันนั้น แล้ววันนี้เราเป็นยังไง เราเปลี่ยนไปยังไง ปรับปรุงตัวเองยังไง ข้อดีคือมันสะท้อนสังคมให้เห็นว่าสิ่งนี้มันไม่ดี แล้วมันเป็นสิ่งที่เราก็เคยทำ แต่ในวันนี้เราทำความเข้าใจกับสิ่งนี้ เราเติบโตมาและเราก็ขอโทษ ที่ในวันนั้นเราอาจจะไม่ได้เข้ามันดีขนาดนั้น”
แฟนคลับเป็นห่วงสภาพจิตใจเรา? “ก็ได้อยู่ครับ ไปเรื่อยๆ เพราะว่าเราทำจริงๆ หมายถึงว่าในบางเคส เราก็ยอมรับและเราก็ไปต่อ เราก็ขอโทษ ผมว่ามันเข้าใจได้ ในวันนั้นกับในวันนี้มันไม่เหมือนกัน (เป็นการเสริมภูมิในวงการบันเทิงไหม?) ก็ด้วยครับ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยชิน เรื่องบางเรื่องมันผ่านมานานแล้ว แต่ถ้ามันจริงเราก็ต้องยอมรับว่ามันจริง ความจริงก็คือความจริง”
เสาร์นี้(28 ม.ค.)เตรียมกดบัตรแฟนมีตติ้ง “พีพี” ไหม? “เดี๋ยวก็ต้องไปสู้ ให้ทีมงานช่วยๆ กันกด (เราไม่มีสิทธิ์พิเศษเหรอ?) ก็ตามระบบเหมือนกันครับ (หรือจะไปเป็นแขกรับเชิญ?) ผมไม่ทราบเลย อันนี้มันเป็นงานของบริษัท PP Krit Entertainment ต้องไปถามฝั่งเขาเอง”
“ผมไม่กล้าไปละลาบละล้วงบริษัทเขา อันนี้บอกไม่ได้เลย เดี๋ยวจะไปเปิดเผยข้อมูลบริษัทอื่น ผมไปแน่นอน แต่ไปในฐานะอะไร บอกไม่ได้ๆ มันเป็นข้อมูลบริษัทเขา (ทำตัวมีพิรุธ) ผมไม่ได้พูดนะ (หัวเราะ) อาจจะไปดูเฉยๆ ก็ได้ เพราะยังไงผมก็ต้องไปดูเขาอยู่แล้ว”
อยากได้บัตรไหน บัตร 1 หมื่นไหม? “บัตรหมื่นคงมีคนที่เขา value กว่าเรา เราเจอเขาอยู่แล้ว เราไม่อย่าไปแย่งสิทธิ์ใคร เราเข้าไปเอ็นจอยดีกว่า เราขอแค่ดูอยู่ไกลๆ ดีกว่า (ไปดูไกลๆ แน่นะ?) ก็ ก็ เดี๋ยวดูอีกที แต่ว่าไป”
ในฐานะที่เรามีแฟนมีตติ้งมาก่อน เขามีปรึกษาไหม? “ก็มีคุยบ้าง เพราะพี่เบลก็เป็นคนใกล้ตัวกัน ก็มีการคุยเรื่องโชว์หรือความเห็นกันบ้าง ผมว่าคอนเซ็ปต์และธีมมันเป็นตัวตนเขาเลยนะ ตอนที่ผมฟังแล้วผมก็ชอบมาก รู้สึกว่านี่คือพีพีเลย มันคิดถึงกลิตเตอร์อะ นี่คือตัวตนและคาแร็กเตอร์เขา”
“ผมว่าพอทุกๆ คนได้ไปอยู่ในงานวันนั้น ได้เห็นบรรยากาศ ได้เห็นคอนเซ็ปต์ที่มันถูกแปะออกมา ผ่านรายละเอียดของโชว์ ของงาน เราก็จะว้าวขึ้นอีก มันมีดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ที่มันถูกย่อยออกมาอีก โหย ชุดเขายิ่งใหญ่อลังการ คาดหวังได้เลย น่าจะยิ่งใหญ่”