บางกอกแอร์เวย์ส (BA) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2565ชี้การท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น เล็งการตั้งกองทรัสต์สนามบินเพื่อระดมทุน
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด มหาชน หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2565 มีรายได้รวม1,698 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2564 มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานเท่ากับ 826.6 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบกับปี 2564 เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 22.3
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภาคการตลาดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศของประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีการขยายตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ซึ่งถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญกับวิกฤตสงครามรัสเซีย– ยูเครน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอมิครอน และปัญหาการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ แต่ทางภาคอุตสาหกรรมการบินทุกภูมิภาคทั่วโลกก็ยังมีอัตราเติบโตใตทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565”
“สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 มีรายได้รวม1,698 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.1 เทียบกับปี 2564 รายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากบัตรโดยสารของธุรกิจสายการบิน และธุรกิจสนามบิน ซึ่งเพิ่มร้อยละ 208.8 ร้อยละ 206.9 ตามลำดับ”
“ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 บริษัทฯ ได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินในเส้นทางการบินหลัก เพื่อรองรับการกลับมาเดินทางของนักท่องเที่ยว หลังจากรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 อาทิ กรุงเทพฯ–สมุย กรุงเทพฯ–ภูเก็ต กรุงเทพฯ–เชียงใหม่ กรุงเทพฯ–ลำปาง สมุย–ภูเก็ต สมุย–อู่ตะเภา ภูเก็ต–อู่ตะเภา และกรุงเทพฯ–พนมเปญ
ส่งผลให้ไตรมาสที่ 1 ของ ปี 2565 มีจำนวนผู้โดยสาร 0.4 ล้านคน และจำนวนเที่ยวบินเท่ากับ 5,037 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 145.8 และร้อยละ 104.4 เทียบกับปี 2564 ตามลำดับ และมีอัตราขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ร้อยละ 63.5และมีราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 2,469.6 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.3”
“บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานเท่ากับ 826.6 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบกับปี 2564 เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 22.3 ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนขายและบริการ ซึ่งได้แก่ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าซ่อมบำรุงเครื่องบิน และค่าบริการผู้โดยสาร”
“การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 ได้แก่ การเปิดให้บริการเที่ยวบินพิเศษเฉพาะผู้โดยสารซีลรูท (Sealed Route) ในเส้นทางกรุงเทพฯ – ภูเก็ต วันละ 2 เที่ยวบิน เพื่อสนับสนุนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ การให้บริการเที่ยวบิน Vaccinated Travel Lane (VTL) ในเส้นทาง สมุย–สิงคโปร์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ได้รับวัคซีนครบโดสตามกำหนด โดยไม่ต้องกักตัว และการจัดตั้งบริษัท กรุงเทพ รีทแมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เพื่อเตรียมการระดมทุนโดยการจัดตั้งกองทรัสต์อสังหาริมทรัพย์จากธุรกิจสนามบิน” นายพุฒิพงศ์กล่าวสรุป