บั้งไฟพุ่งเฉียดเครื่องบิน ประกาศบอกนักบินต้องหลบเอง นายอำเภอปัดไม่ใช่ในท้องที่

Home » บั้งไฟพุ่งเฉียดเครื่องบิน ประกาศบอกนักบินต้องหลบเอง นายอำเภอปัดไม่ใช่ในท้องที่

บั้งไฟพุ่งเฉียดเครื่องบิน โฆษกประกาศบอกนักบินต้องหลบเอง นายอำเภอปัดไม่ใช่ในท้องที่ ไม่รู้ที่ไหน

จากกรณี เมื่อวันที่ 19 พ.ค.67 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบเล่นการพนัน ในงานประเพณีบุญบั้งไฟแสนที่ด้านหลังวัดแห่งหนึ่ง บ้านจังเกา ม.10 ต.หนองไผ่ล้อม อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ จึงลงพื้นที่ ก็พบว่าผู้ที่เข้าไปภายในงาน ต้องซื้อโบว์ติดเพื่อเข้าไปชม คนละ 100 บาท ภายในงานพบนักพนันจำนวนหลักพันกว่าคน กำลังต่อรองราคาเล่นพนันกันอย่างโจ๋งครึ่ม ก่อนที่บั้งไฟจะขึ้นสู่อากาศ โดยมีกรรมการกลางคอยประกาศบอกเวลาผ่านเครื่องขยายเสียงให้เซียนพนันได้รับทราบ ทุกครั้งที่บั้งไฟขึ้นจากฐานปล่อยลอยอยู่บนท้องฟ้า ก่อนสรุปเวลาให้ได้รับทราบ

แต่กลับไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการตามประกาศของ จ.สุรินทร์ เรื่องมาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในการจุดและปล่อยหรือกระทำการอย่างใดเพื่อให้บั้งไฟ ตะไล หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ โดยเฉพาะในเรื่องของการเล่นการพนัน แม้ว่า นายวิรุต ตรียวง นายอำเภอสำโรงทาบ จะมีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการจับกุมตามกฏหมายได้เลยหากมีการเล่นการพนัน

ขณะที่ ทางปลัดป้องกัน อ.สำโรงทาบ ก็ได้ยืนยันว่าไม่มีการเล่นการพนัน เพราะตนเองเพิ่งออกมาจากงาน แม้ผู้สื่อข่าวได้ส่งคลิปการเล่นการพนันในงานให้กับปลัดป้องกันช่วยส่งต่อรายงานให้กับทางนายอำเภอรับทราบ แต่สุดท้ายก็ไม่มีมาตรการป้องกันเหตุหรือดำเนินการระงับตามที่นายอำเภอได้กล่าวไว้

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเครื่องบินจากสายการบินต่างๆ บินผ่านจำนวนหลายเที่ยวบิน ในจำนวนนั้นมีหนึ่งสายการบิน ที่ผู้สื่อข่าวสามารถบันทึกภาพขณะบั้งไฟ พุ่งไปในทิศทางที่เครื่องบินกำลังบินอยู่ มีโอกาสสูงที่บั้งไฟอาจจะเกิดการพุ่งชนเครื่องบินได้ แต่เหตุการณ์ก็รอดผ่านไปได้อย่างระทึก ก่อนที่จะได้ยินเสียงประกาศผ่านทางเครื่องขยายเสียงว่า การจุดครั้งนี้ได้มีการแจ้งจุดปล่อยและแจ้งวิทยุการบินแล้ว ทีมนักบินก็เหมือนกันถ้าคุณไม่หลบคุณก็จะชน ขณะที่การจุดบั้งไฟยังคงดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่องจนเสร็จงาน 

ล่าสุด เวลา 15.00 น.วันนี้ (20 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวโทรสอบถาม นายวิรุต ตรียวง นายอำเภอสำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามข่าวที่นำเสนอออกไป โดยนายนายวิรุต กล่าวว่า ภาพเสียงเรื่องที่โฆษกประกาศให้เครื่องบินหลีกนั้น ในพื้นที่สำโรงทาบนั้นไม่มี แต่ทราบข่าวว่าน่าจะเป็นแถว อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ หรือของ อ.ราศีไษล จ.ศรีสะเกษ แต่ผมไม่แน่ใจนะ เห็นเค้าพูดมา ทางสำโรงทาบไม่มี ที่บ้านจังเกาไม่มี ข่าวที่สื่อมวลชนนำเสนอก็เป็นจังหวัดข้างเคียง เพราะของเราไม่มีแนวเครื่องบิน บินผ่านอยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่มีและผมได้สอบถามคนทั่วไปเค้าบอกว่าของเราไม่มีสายการบินไหนบินผ่านแล้ว ไม่ใช่เส้นทางการบินด้วย

ซึ่งทาง จส.100 โทรมาหา ผมก็บอกว่าของผมไม่ใช่เส้นทางการบิน แล้วก็การที่เราจุดแต่ละครั้ง เราแจ้งวิทยุการบิน แล้วก็ให้ผู้ใหญ่บ้านบอกทางวิทยุการบิน คือทางผู้ใหญ่บ้านจะหยุดก่อนจุดก่อน ถ้ามีการบินจริงๆ แต่ของเราไม่ใช่เส้นทางการบินที่จะผ่านอำเภอสำโรงทาบ ท่านสามารถเข้าไปดูแผนที่การบินได้เลย ส่วนการลักลอบเล่นการพนันตามที่ออกข่าว ทางโรงพักสำโรงทาบก็น่าจะไปดำเนินการแล้ว เดี๋ยวจะบอกทางตำรวจให้เอาเจ้าของคลิปมายืนยันให้ได้ ว่าถ่ายมาเหมือนกับมือบัง ไม่ชัดเจนว่าคนที่ถ่าย ถ่ายไม่ให้เห็นหน้า ตนก็ยังงงอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินการตามหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งทาง สภ. สำโรงทาบ ก็จะดำเนินการอยู่

ในส่วนที่เห็นภาพ ตนไม่แน่ใจในคลิปตรงนี้ แต่ก็เห็นว่าเค้าไปจับได้มารายสองราย ในส่วนของการขออนุญาตจุดบั้งไฟเวลานี้ก็มีไม่เยอะ เพราะต้องยื่นล่วงหน้าภายใน 15 วัน ตอนนี้ก็ยังมีที่เคยยื่นขออนุญาตเข้ามา เพื่อขอจุดถวายประเพณีปู่ตา ตอนนี้ก็ได้มีการกำชับเข้มข้นแล้ว อย่างไรก็แล้วแต่ คนขออนุญาตจุดได้ ตามกรอบขนาดที่ได้อนุญาตไว้ ส่วนการพนันก็ต้องไปกำชับและถ้ามีการเล่นการพนันก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย เราไม่ได้ละเลยอยู่แล้วและผมก็ได้กำชับทุกครั้ง แล้วในใบอนุญาตมีแนบท้ายท่านไปดูได้เลย ในใบอนุญาตมีกฎกติกาแนบท้ายใบอนุญาตมาให้หมดเลย รวมถึงกำชับเจ้าหน้าที่ ผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ในพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้าไปตรวจสอบดูแล และไม่ใช่ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีเซ่นไหว้ปู่ตา ซึ่งเค้ามีการจุดบั้งไฟถวายปู่ตา ตามความเชื่อของชาวบ้าน มีการประชุมคณะกรรมการหมู่บ้านขึ้นมา กรรมการแต่คุ้มก็รวบรวมเงินกันไปซื้อบั้งไฟมาจุดถวาย และผมขออนุญาตบันทึกเสียงตามที่ได้พูดคุยกันในครั้งนี้ด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องบั้งไฟที่ขึ้นเมื่อวาน ขณะที่เครื่องบิน บินผ่าน ว่าไม่ใช่ที่บ้านจังเกาใช่หรือไม่ นายอำเภอตอบว่าไม่ปรากฏข่าวสารเลยว่าเกิดขึ้นที่บ้านจังเกา แล้วก็ไม่ใช่เส้นทางการบินของเครื่องบินพาณิชย์ ส่วนภาพที่ออกมา ลองพิสูจน์สิครับ พิสูจน์ว่าเป็นของที่ไหน ผมยืนยันว่าไม่มีไม่ใช่ และทาง ศวท.ทางตรวจการก็ได้มาสอบตามข้อเท็จจริงแล้ว ผมก็ให้ข้อเท็จจริงไปแล้ว

ส่วนเรื่องการฟ้องร้อง ตนไม่คิดที่จะฟ้องร้องสื่อเลย เพราะว่าสื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันมีความผิดพลาดกันได้ บางทีเป็นการเข้าใจผิด การออกจากเฟชต่อเฟชไป ผ่านโลกโซเชียลให้มันดังขึ้นมา ผมเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผมไม่คิดที่จะฟ้องร้องต่อสื่อมวลชนหรือประชาชนหรอก นายอำเภอกล่าว

ทั้งนี้ ทีมงานผู้สื่อข่าวได้ยืนยันว่า ภาพที่ปรากฏออกข่าวไปแล้วนั้น เป็นภาพที่ถ่ายจากพื้นที่งานประเพณีบั้งไฟที่บ้านจังเกา อ.สำโรงทาบจริง โดยเฉพาะภาพที่เครื่องบินบินผ่าน ขณะบั้งไฟขึ้นไปเฉียด 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ