บันเทิง – ‘เป้ย’พร้อมฟาดบทนางร้าย ดีดตัวจากแก๊ง-ยังรักเหมือนเดิม

Home » บันเทิง – ‘เป้ย’พร้อมฟาดบทนางร้าย ดีดตัวจากแก๊ง-ยังรักเหมือนเดิม


บันเทิง – ‘เป้ย’พร้อมฟาดบทนางร้าย ดีดตัวจากแก๊ง-ยังรักเหมือนเดิม

‘เป้ย’พร้อมฟาดบทนางร้ายดีดตัวจากแก๊ง-ยังรักเหมือนเดิม – กลับมาฟาดบทร้ายอีกครั้ง ในละคร “วานวาสนา” ทางช่องวัน 31 ดาราสาว ‘เป้ย’ ปานวาด เหมมณี บุญยรัตกลิน บอกงานนี้ทั้งตื่นเต้นทั้งกังวล เพราะห่างหายจากการแสดงไปนาน

โดยเจ้าตัวมาเปิดใจถึงบทบาทที่ได้รับ และฟีดแบ็กจากสามี ‘ป๊อป’ นิธิ บุญยรัตกลิน หลังตัดสินใจแสดงบทร้าย รวมถึงอัพเดตการเลี้ยงลูกชายลูกสาว ‘น้องโปรด ด.ช.อัษศดิณย์’ และ ‘น้องปาลิน ด.ญ.ปราณปาลิน’ พร้อมเล่าถึงสัมพันธ์แก๊งเพื่อนสนิท หนิง ปณิตา, กระแต ศุภักษร และ เมย์ พิชญ์นาฏ ที่ไม่เหมือนเดิม

เป็นอย่างไรบ้าง กลับมารับงานละครอีกครั้งในรอบ 9 ปี?

เป้ย – “ตื่นเต้นค่ะ หายไปนานเกือบ 10 ปี ก็รู้สึกว่าถ้าเรากลับมาแล้วจะยังเหมือนเดิมไหม จะเล่นได้หรือเปล่า คนจะยังให้การต้อนรับหรือเปล่า เครียดหลายอย่างค่ะ แล้วลูกจะยังไง ความกังวลค่อนข้างเยอะ แต่ก็เรียกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่กลับมา”

อะไรเป็นตัวตัดสินใจที่ทำให้เรากลับมาเล่นละคร?

เป้ย – “บทค่ะ คือตลอดเวลา 9 ปีก็จะมีบทส่งมาให้เรื่อยๆ เราก็รู้สึกเหมือนยังมีคำถามว่ามันจะยังไง จะโอเคหรือเปล่า คือตัวเราจะบอกเสมอว่าเราอยากได้บทสักบทที่ท้าทาย ไม่อยากเล่นร้ายแบบเดิมๆ อยากมีอะไรให้เล่น และบทในวานวาสนา เป็นบทที่อ่านเรื่องย่อแล้วขนลุก รีบไปบอกผู้ใหญ่ว่ามันดีมาก แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ตอบกลับนะ ผู้ใหญ่ก็พูดมาคำหนึ่งว่าบทนี้คิดถึงแต่หน้าเป้ย มันต้องเป็นเป้ย เป้ยว่ามันก็คงเป็นจังหวะนี้แล้ว เพราะทุกอย่างมันลงตัว ลูกก็โตแล้ว ตัวเล็กก็เข้าเรียนแล้ว ถ้าไม่เล่นตอนนี้ต่อไปก็รับบทแม่แล้วแหละ”

9 ปีที่ผ่านมาปฏิเสธบทอย่างไร?

เป้ย – “คือบทที่ติดต่อมาส่วนใหญ่เป็นคนดี ก็ยังตกใจ หรือเป็นเพราะเราแต่งงานมีลูกแล้ว คือเรารู้สึกว่าเราอยากแรงๆ กลับมาทั้งที ก็เลยยังไม่ตัดสินใจ แต่พอมาเจอบทเอื้อง ในวานวาสนา และด้วยความเป็นช่องวัน เป็นบ้านของเรา คือเป้ยเกิดมาจากที่นี่ มีชื่อเสียงจากบทเชอร์รี่ สงครามนางฟ้า มีความรู้สึกว่า ถ้าจะกลับมาเล่นเรื่องแรกก็กลับมาเล่นที่บ้านเราก่อน อย่างน้อยๆ ก็รู้จักทีมงานทุกคน ผู้ใหญ่ทุกๆ คนอยู่แล้ว ความตื่นเต้น ความกดดันต่างๆ น่าจะเบาลง และมันก็จริง ทีมงาน นักแสดงทุกคนน่ารักมาก ทำให้เป้ยมีความสุขมากๆ ในการจะมาถ่ายละครในแต่ละวัน”

ได้บอกลูกไว้บ้างไหม?

เป้ย – “บอก คือเป้ยจะบอกเขาทุกอย่าง เพราะเดี๋ยวนี้เราก็รู้ว่าสื่อโซเชี่ยลมันเยอะมาก บางทีเขาไม่รู้ เขาไม่ได้ดู แต่เพื่อนๆ เขาดู เดี๋ยวก็จะมาถาม แล้วเดี๋ยวเขาก็จะมางง ก็เลยบอกเขา”

ต้องเคาะสนิมใหม่หมดเลยไหม?

เป้ย – “เคาะสิ เคาะเยอะมาก แต่ที่สุดแล้ว มันเหมือนความรู้สึกของเราที่มันอยากจะทำ อยากจะเล่นมาก คันไม้คันมือเหลือเกิน เพราะในช่วงระหว่าง 9 ปีกว่าๆ ที่เราดูละคร แล้วเห็นบทนางร้ายบางบทที่เราอยากเล่น ก็แอบไปเล่นเอง เหมือนคนเก็บกด เลยมีความรู้สึกว่าเราอยากเล่น พอถึงเวลาเราเลยพร้อมที่จะพุ่งชน เป็นอารมณ์นั้นจริงๆ เราพร้อมจะเล่นมาก พร้อมฟาดมาก”

บทแซ่บขนาดไหน?

เป้ย – “คือมันร้าย ร้ายหลายมิติมาก ไม่ได้ร้ายเรียบๆ แรกๆ อาจจะมีแบบกวนๆ แต่หลังๆ ค่อนข้างจะดราม่า มันก็เลยทำให้เราอยากเล่นหลายๆ มิติ เพื่อจะพัฒนาฝีมือ อย่างที่คิดไว้ อย่างที่ตั้งใจไว้ บทเอื้องก็คือเป็นบทตรงตามที่เราตั้งใจไว้เลย”

เลิฟซีนมีไหม?

เป้ย – “ไม่มี (ทำท่าขัดใจ) ตอนแรกเขาเขียนว่ามีกับพี่เคลลี่ แต่ผู้กำกับฯ น่าจะเกรงใจ ทำไมไม่มาถามก่อนเนอะ เราก็เล่นได้ ผู้กำกับฯคงเกรงใจเลยตัดออกไป”

ความร้ายในเรื่องนี้ ‘ป๊อป’ สามีว่ายังไงบ้าง?

เป้ย – “พี่ป๊อปก็เห็นว่าที่บ้านก็ร้ายอยู่แล้ว ไม่ใช่ (หัวเราะ) ล้อเล่นค่ะ คือเขาก็เคยดูผลงานเรามาก่อน เขาพอจะรู้แหละว่าเราแนวนี้ แต่เขาก็มีตกใจนิดๆ ว่าเออ สงสัยลูกไม่น่าจะดูได้”

มีติดกลับไปใช้ที่บ้านบ้างไหม?

เป้ย – “ไม่มี แต่อาจจะมีเวลาที่ดุลูกก็จะแบบเอาแอ๊กติ้งกลับมาใช้ที่บ้าน มาใช้กับลูก เขาก็จะไปฟ้องพ่อเขา”

ในละครก็แซ่บ ในชีวิตจริงไปทะเลก็แซ่บ คนก็ยังมองว่าเราเป็นตำนานอยู่?

เป้ย – “ไม่ได้แล้ว แก่แล้ว เราไปเที่ยวทะเลแล้วใส่ชุดว่ายน้ำแค่นั้นเอง คือถ้าเกิดจะบอกว่าเซ็กซี่เนี่ย มันต้องเซ็กซี่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือทำอะไร แต่ด้วยปกติธรรมชาติเราใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ เราไม่ได้เซ็กซี่ เราไม่ได้ใส่ชุดว่ายน้ำอยู่บ้าน ชุดว่ายน้ำคือโอกาสพิเศษจริงๆ คนก็มีทั้งชื่นชม ทั้งติ ก็รับฟังค่ะ ก็เข้าใจได้แหละ แต่ว่าเราจะลงรูปอะไร ก็ถามสามีก่อนแล้วว่าลงได้ไหม ไม่ใช่เอะอะจะลงไม่คิดอะไร ต้องคิดก่อนอยู่แล้ว”

มีนอยด์บ้างไหมตอนที่มีคนติ?

เป้ย – “ไม่นอยด์เลย รุ่นนี้แล้ว มันไม่มีอะไรถูกใจทุกคนหรอก เรารู้ถึงสัจธรรมข้อนี้อยู่แล้ว และเราก็รู้ขอบเขตของเรา”

ถามเรื่องลูกบ้าง ‘พี่โปรด’ ละมุนกับน้องสาวมาก?

เป้ย – “พี่โปรดเขาจะเป็นผู้ชายละมุนๆ อยู่แล้ว ก็ได้นิสัยมาจากเป้ยอะเนอะ ละมุนๆ เรียบร้อย (หัวเราะ) เขาจะมีความเป็นพี่ชายสูงมาก แล้วมีความอบอุ่นมาก เจนเทิลเมนมาก ดูแลน้อง ส่วนน้องก็ขี่คอพี่ เดินตัวใหญ่ๆ ขี้ฟ้องด้วย ใครมาว่าก็ไม่ได้ เหมือนเป็นเจ้าบ้านเจ้าเรือน ชี้นิ้วสั่งทุกคนว่าต้องยังไง ใครบอกไม่สวยไม่ได้ บอกอ้วนไม่ได้ ว่าไม่ได้”

แล้วไปโรงเรียนเป็นยังไงบ้าง?

เป้ย – “แฮปปี้มาก จากที่แม่นอยด์ๆ นะ เพราะเขาเป็นเด็กยุคโควิดไง ไม่ได้ไปไหนเลย อยู่แต่บ้าน ก็คิดว่าถ้าไปโรงเรียนวันแรก เจอคุณครูหน้าตาใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ จะเป็นยังไง ต้องร้องแน่เลย แม่ก็เครียด เพราะต้องถ่ายละคร ไม่ได้ไปส่ง เครียดมากๆ ปรากฏว่าแฮปปี้มาก ไม่อยากกลับบ้าน แล้วเดินกอดคอเพื่อน ตัวใหญ่สุด สูงใหญ่มาก แล้วเพื่อนเขาโตตามวัยอ่ะ ก็เดินเป็นนักเลงคุมซอยเลย”

กลับมาเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้แม่ฟังบ้างไหม?

เป้ย – “ก็มีเล่าบ้างนะ เขาก็บอกเพื่อนชื่ออะไร เราบอกอย่าไปแกล้งเพื่อนนะลูก อย่าไปตีหัวใครนะ”

คุณครูมีรายงานพฤติกรรมบ้างไหม?

เป้ย – “เวลาไม่ได้ไปโรงเรียน คุณครูก็จะรีบบอกให้มาได้แล้วคิดถึง ห้องเงียบ แต่ละวันก็จะรายงานว่าได้แผลอะไรกลับมาบ้าง เพราะตัวสูง แล้วของเล่นมันตามวัย เขาก็จะหัวโหม่งกลับบ้านทุกวัน เข้าห้องพยาบาลทุกวัน”

เราเป็นห่วงไหม ไปโรงเรียนช่วงโควิด?

เป้ย – “เป็นห่วง แต่เราก็ดูมาตรการป้องกันของทางโรงเรียนว่าเป็นยังไง เด็กในห้องจำนวนไม่เยอะ มีการตรวจทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพี่เลี้ยงหรือผู้ปกครอง ทุกคนต้องมีวัคซีน 2 เข็มขึ้นไป ใส่แมสก์ตลอดเวลา ก็สบายใจ ซึ่งเรามีความรู้สึกว่าเขาโตในวัยที่ต้องไปโรงเรียนแล้ว ไม่งั้นจะอยู่กับที่ ซึ่งเราไม่อยากให้พัฒนาการของลูกไม่เป็นไปตามวัย เขาควรจะเก่งตามวัย ไม่อยากให้ช้า นั่งอยู่กับบ้านเรียนออนไลน์อยู่กับจอ เราไม่แฮปปี้”

วันเกิดเพื่อนที่ผ่านมา คนโฟกัสว่าไม่เห็นเราร่วมเฟรม?

เป้ย – “มูดเปลี่ยนเลย (หัวเราะ) จริงๆ คือแบบว่า…ถ้าบางทีเราตอบอะไรไป เขาจะมองว่า คือคนมันคิดหลายแบบ เป้ยก็เลยค่อนข้างระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าเงียบได้ก็เลือกที่จะเงียบ หรือไม่ตอบดีกว่า ก็หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ แต่ก็เข้าใจ ว่าบางทีมันก็มีคำถามว่าทำไมหายไปจากกัน คือก็เอาเท่าที่ได้เนอะ (ยิ้ม) ก็ไม่ได้ไปค่ะ ไม่ได้ไปร่วมงาน เพราะเราก็แยกตัวออกมาแล้ว”

ได้มีส่งข้อความไปให้ไหม?

เป้ย – “ไม่มีค่ะ ไม่ได้ส่ง”

เรารู้ใช่ไหม ว่าข่าวมันมีมาเรื่อยๆ เกี่ยวกับแก๊งเรา?

เป้ย – “เข้าใจ เข้าใจทุกอย่าง ก็ไม่เป็นไร คือเราอยู่ในวงการนี้มานาน เราพอจะเข้าใจว่าข่าวมันก็ต้องมีแหละ แต่อย่างที่บอก ใครที่มีบทบาทกับความรู้สึกเรามากๆ เป็นคนที่เรารักมากๆ เราก็มีความรู้สึกว่าเราไม่อยากสัมภาษณ์ผ่านไปผ่านมา ถ้าเป็นใครก็แล้วแต่ที่เรารัก ก็มีความรู้สึกว่าเราก็อยากคุยกันเองมากกว่า ไม่ใช่ว่าไม่อยากสัมภาษณ์นะคะ แต่กลัวเข้าใจผิด กลัวว่าจะเข้าใจในความหมายอีกรูปแบบหนึ่ง เลยเลือกที่จะเงียบดีกว่า”

ไม่ได้เจอกันนานมากเลยใช่ไหม?

เป้ย – “ก็ปีหนึ่งนะ”

แต่ยังทำธุรกิจด้วยกันเหมือนเดิม?

เป้ย – “ยังทำด้วยกันอยู่ แต่ก็ไม่ได้เจอกัน”

คุยกันเฉพาะเรื่องธุรกิจ?

เป้ย – “คือเราก็คุยกับเมย์ (พิชญ์นาฏ) เมย์ก็จะคอยอัพเดตเรา เป็นเหมือนคนกลาง เราก็เหมือนคุยกัน แล้วก็แชร์ความคิดเห็น สุดท้ายเขาก็จะไปบอกในกรุ๊ปว่าเราเอาตามความคิดเห็นของเมย์เลย อะไรอย่างนี้มากกว่า”

ยังเหมือนเดิมไหม?

เป้ย – “ไม่เหมือนเดิมแน่นอนค่ะ (ยิ้ม)”

มีโอกาสจะเป็นเหมือนเดิมไหม หลายคนก็ลุ้นให้ดีกัน เพราะกลุ่มเราน่ารัก?

เป้ย – “เป้ยไม่รู้อนาคตข้างหน้าหรอกเนอะ แต่เป้ยก็ตัดสินใจที่จะออกมา เป็นคนออกมาเอง เราเลือกที่จะออกมาเอง (น้ำตาคลอ) ตัดสินใจยากสิ รักมาก…เพื่อนที่รักมาก เป็นใครใครก็ไม่อยากเสียเพื่อนที่เรารัก ใช่ป่ะ มันก็ค่อนข้างจะแบบ…แต่มันก็ยังมีความรู้สึกดีๆ ตัดไม่ขาดหรอก เวลาเดินออกกำลังกาย เดินผ่านหน้าบ้านเขา ได้ยินเสียงเขา เราอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ก็เออ คิดถึงเสียงนี้จังเลยเนอะ (ยิ้ม) แล้วเราก็เดินต่อ แล้วก็ยิ้ม เราก็คิดแต่เรื่องดีๆ คิดถึงความน่ารักอะไรแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังรักเหมือนเดิม แต่ก็อยู่ในจุดที่แบบ รู้สึกว่าเราอยู่ตรงนี้ดีกว่า เราแยกออกมาดีกว่า ก็สบายใจกว่า (ยิ้ม)”

อนงค์ จันทร

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ