บันเทิง – ‘ดิว’มีดี-ไม่ใช่แค่สวยไปวันๆ พิสูจน์รักทริปวัดใจ‘เซบาสเตียน’

Home » บันเทิง – ‘ดิว’มีดี-ไม่ใช่แค่สวยไปวันๆ พิสูจน์รักทริปวัดใจ‘เซบาสเตียน’


บันเทิง – ‘ดิว’มีดี-ไม่ใช่แค่สวยไปวันๆ พิสูจน์รักทริปวัดใจ‘เซบาสเตียน’

‘ดิว’มีดี-ไม่ใช่แค่สวยไปวันๆพิสูจน์รักทริปวัดใจ‘เซบาสเตียน’ – เป็นสาวผู้โชคดีที่สาวๆ หลายคนอิจฉา หลังคบหาแฟนหนุ่มนักธุรกิจ ‘เซบาสเตียน ลี’ ที่ดูแลดาราสาว ‘ดิว’ อริสรา ทองบริสุทธิ์ ดุจเจ้าหญิง

ล่าสุดพาไปเที่ยวอเมริกานานถึง 3 เดือน เป็นการพิสูจน์รักว่าเลิกหรือรอด

หลังกลับจากทริปอเมริกา ดาราสาว ‘ดิว อริสรา’ ก็มาเปิดใจเรื่องความรัก พร้อมพูดคุยถึงภาพยนตร์แอ๊กชั่นไซไฟ “Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด” ซึ่งเป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์ในรอบ 10 ปี

ห่างหายจากงานหนังไป 10 ปี อะไรทำให้ตัดสินใจรับเล่น Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด?

ดิว – “บทเลยค่ะ อ่านแล้วสนุกมาก ตอนนั้นเลือกที่จะอ่านก่อนจะรู้ด้วยว่าตัวเองเล่นเป็นตัวอะไร บวกกับเราชอบแนวนี้อยู่ แล้วค่ะ”

แล้วในเรื่องเราเล่นเป็นใคร มีคาแร็กเตอร์อย่างไร?

ดิว – “ในเรื่องเล่นเป็น ไอรีน คาแร็กเตอร์เป็นคนซับซ้อน มีอะไรในใจเยอะ คิดหลายระดับ คิดอย่างแสดงออกอีกอย่าง คือเป็นคนน่ากลัว ไม่มีขอบเขตอะไรเลยในชีวิต จนทำให้วิธีการใช้ชีวิตและทัศนคติไม่มีความพอดี ไม่รู้ค่าของตัวเอง เป็นมนุษย์ที่พังทางด้านจิตใจมาก”

ดิว กับ ไอรีน มีอะไรที่เหมือนและต่างกันบ้าง?

ดิว – “ไม่มีอะไรเหมือนเลยค่ะ ถ้าใครเหมือนไอรีนน่ากลัวมากนะคะ (หัวเราะ) แล้วความแตกต่างกับตัวละครนี้ทำให้ดิวทำงานหนักมาก ไม่เคยต้องเล่นอะไรแล้วรู้สึกเครียดและกดดันมากขนาดนี้ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำการบ้านกับการแสดงอะไรเยอะขนาดนี้ มาก่อน”

เท่าที่เห็นตัวเองเล่นพอใจแค่ไหน?

ดิว – “โอเคนะคะ เต็มที่สุดแล้ว พอดูปุ๊บเราก็โอเคในสิ่งที่ทำ หรืออย่างบางซีนก็ไม่กล้าดูตัวเอง อย่างเลิฟซีน ก็เขินนะ เลิฟซีนกับแซมมี่ค่ะ แล้วก็มีคนอื่นอีก”

ครั้งแรกไหมที่เลิฟซีนกับผู้หญิง ด้วยกัน?

ดิว – “ครั้งแรก แล้วแซมมี่คือเพื่อนสนิท มันไม่เขินนะ แต่ดิวก็รักแซมอ่ะ เอ๊ย! เขาเรียกว่าอะไรอ่ะ ไม่ใช่คำว่าอิน แต่มันก็เหมือน อินๆ อ่ะ ก็เข้าใจ พอเราเป็นเพื่อนกันเรารักกันอยู่แล้ว แต่มันจะมีความรู้สึกเอ็นดูขึ้น รู้เลยว่าตั้งแต่หลังจากเล่นหนังเรื่องนี้ ดิวมองแซมสวยงามขึ้น เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ชายถึงชอบเขา เพราะในหนังเราต้องเลิฟซีนกับเขา เลยมีบางโหมดที่ติดจากตรงนั้นมา แล้ว เพื่อนเรามันก็สวยจริงๆ มันมีความละมุน ปากมันอ่ะเนอะ จมูกมันอ่ะเนอะ ก็น่าจูบอ่ะ ก็เข้าใจอะไรอย่างเนี้ย”

ตอนถ่ายทำมีวูบวาบขนลุกไหม?

ดิว – “ไม่ เพราะเราเคยคบทอมอยู่แล้วไง ไม่ได้เขินอะไร แต่พอเป็นเพื่อนก็จะแบบยังไงวะ…อะไรอย่างเนี้ย ลึกๆ ดีใจที่เป็นแซมมี่ เพราะอย่างน้อยจูบเพื่อนก็ยังดีกว่าจูบกับคนใหม่ที่เราเพิ่งรู้จัก”

คนดูจะได้เห็นดิวในบทบาทที่แตกต่างไปจากที่เคยเห็นอย่างไรบ้าง?

ดิว – “น่าจะเห็นว่าดิวไม่ได้เป็นแค่นางร้ายที่เล่นละคร ได้รู้ว่าอย่างน้อยดิวก็ยังมีวิญญาณความเป็นนักแสดงบ้างไม่มากก็น้อย พยายามทำการบ้านให้เยอะและแสดงออกมาให้ดีที่สุด เพื่อให้คนรู้ว่าอย่างน้อยระยะเวลา 10 ปีที่อยู่ในวงการบันเทิงมา ไม่ใช่แค่สวยไปวันๆ เล่นไปวันๆ ตามละครแค่นั้น”

“ยังไงก็ฝากหนัง Dark World ด้วยนะคะ ถ้าอยากรู้ว่าตอนนี้คนไทยทำหนังได้ยังไงแล้วบ้าง ก็ต้องลองมาดู กันค่ะ”

มาที่เรื่องความรักบ้าง ทริปอเมริกาล่าสุดหวานมากและลักชัวรี่มากเช่นกัน?

ดิว – “แพลนคือคุยกันตั้งแต่ช่วงวันเกิดแล้วค่ะ จริงๆ เราสองคนเป็นคนชอบเที่ยวอยู่แล้ว เขาก็บอกไปอเมริกากัน เขา แพลนทุกอย่างเลย เอาจริงๆ ทริปนี้ดิวไม่รู้เลยว่าจะไปไหน ทำอะไรบ้าง แค่รู้ว่าไปอเมริกา 3 เดือน”

3 เดือน ถือเป็นทริปวัดใจเลยไหม?

ดิว – “วัดใจนะคะ กินอยู่นอนใช้ชีวิตด้วยกัน ง่ายๆ สมมติเราไปทัศนศึกษากับเพื่อนแค่ 3-4 วัน เราก็รู้นิสัยเพื่อนเยอะขึ้นเลยว่าคนนี้มีน้ำใจหรือไม่มีน้ำใจ นี่ 3 เดือนมันรู้อยู่แล้วอ่ะ”

“ก่อนไปคิดเลยว่าถ้าทริปนี้ไม่รอดคือรู้เลยไม่รอด คือ 3 เดือนแล้วใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง เวิร์กคือเวิร์ก ไม่เวิร์กคือไม่เวิร์ก ฟันธงเลยอ่ะ! เลยคิดว่าถ้าไม่รอดกลับมาก็ต้องบอกเลิกละ เพราะอายุ 31 แล้ว เป็นทริปพิสูจน์ว่ามันจะเสียเวลาหรือไม่เสียเวลากับคนนี้ คิดแล้วก็พูดกับเขาด้วยนะ เขาก็แอบอึ้ง เพราะดิวพูดตรงๆ ว่าเดี๋ยวรอดูทริปนี้เลยนะว่าเวิร์กไหม ถ้าไม่เวิร์กขึ้นมารู้นะว่ากลับไปเราคงต้องคุยกัน เขาก็บอกว่าเขากดดันมากเลยอ่ะ”

สรุปจบทริปแล้ว เลิก หรือ รอด?

ดิว – “ก็ไปต่อ โอเค นางก็น่ารัก สงสารที่ต้องช่วยแบกกระเป๋า แล้วของดิวเยอะมาก เสื้อผ้าก็เยอะ ผู้ชายก็ต้องยกต้องอะไรเอง สงสารจัง”

หลายคนแซวดิวได้ผู้สายเปย์ตลอด?

ดิว – “ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่เปย์แต่ละคนไม่เหมือนกัน ยอมรับเขาเปย์ แต่เขาเปย์โดยการเที่ยว ไม่ได้เปย์ด้วยสิ่งของ แต่เปย์ด้วยการที่พาดิวไปเปิดโลกกว้าง เชื่อว่าเขาต้องทำการบ้านกับดิวมาเหมือนกัน เราก็ไม่ได้มาเท่ากับศูนย์ เราก็พอมีอะไรมาบ้าง เขารู้อยู่แล้วว่าถ้าเขามากับเราด้วยการที่ซื้อให้หมด เป็นสุลต่าน เราคงไม่ตื่นเต้นอะไร เพราะถ้าทุกคนรู้จัก ดิวดีจะรู้ว่าดิวผ่านอะไรมาเยอะมาก นักการเมืองก็เคย โน่นนี่นั่นก็เคย เขาเลยพยายามเปย์ในการที่พาดิวไปเห็นโลกอะไรใหม่ๆ ใช้ชีวิตในต่างประเทศดูบ้าง ซึ่งตั้งแต่ตอนแรกที่คบกัน เขาพูดอยู่แล้วว่าเขาอยากจะ I will show you the world แล้วเขาก็ทำได้อย่างที่พูดจริงๆ”

เวลาที่คนมองว่าเราได้แต่แฟนสายเปย์ รู้สึกเหมือนโดนดูถูกไหม?

ดิว – “ไม่นะคะ ดิวอาจจะชินแล้ว ต้องบอกก่อนว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงทุกคน จะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิต ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตเขาเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นใคร มันคือการคบกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน อย่าไปมองว่าผู้หญิงต้องเลือกผู้ชายสายเปย์ นิสัยก็ต้องเข้ากันได้ด้วย ตัวเราก็ต้องมีต้นทุนด้วย มาถึงขนาดนี้ทำงานมาเหนื่อย เป็นเรื่องปกติที่ต้องหาคนที่ดูแลเราได้และเพียบพร้อม แต่ก็อย่ามองแค่มุมเดียว ต้องมองด้วยว่าขณะเดียวกันผู้ชายเก่งๆ มีฐานะเขาก็ไม่ได้โง่ เขาไม่ได้เลือกผู้หญิงแค่หน้าตาอย่างเดียว ต้องสวยทั้งข้างในและข้างนอก ดังนั้นการที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ดูถูกดิวหรือดูถูกเขา แต่มันคือการบ่งบอกมากกว่าว่าตัวเองคิดได้แค่ไหน”

คาดหวังกับความรักครั้งนี้แค่ไหน มองถึงอนาคตด้วยกันไว้บ้างหรือยัง?

ดิว – “คบกันมาจะ 1 ปีแล้ว จริงๆ เซบาสเตียน เขามองเรื่องอนาคตนะคะ ส่วนตัวดิวไม่ค่อย คาดหวังเท่าไหร่ในเรื่องความรักเพราะผ่านมาเยอะ เจ็บมาเยอะ อะไรที่ชัวร์ก็ไม่ชัวร์ อะไรที่นานก็ไม่ได้ว่าใช่ 8 ปีคิดว่าจะใช่สุดท้ายก็แยกย้าย ไม่มีอะไรแน่นอน แต่ตัวเขาค่อนข้างคาดหวัง”

ถ้าเป็นไปได้อยากให้เจ้าบ่าวเป็นคนนี้ไหม?

ดิว – “ใครก็ได้ที่ตอนนั้นดิวอยู่ด้วยแล้วมีความสุข ดิวชอบทำทุกอย่างตามความรู้สึกตัวเอง ดังนั้นจะไม่ชี้ชัดว่ายังไงต้องคนนี้ ต่อให้สังคมโลกรู้สึกว่าคนนี้ดีมาก แต่สำหรับดิว ถ้าใจตอนนั้นไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ เพราะไม่ได้อยากอยู่ในจุดที่ต้องฝืนใจ”

นิยามความรักของดิวคืออะไร?

ดิว – “ความรักคือการที่หัวใจเรารู้สึกอบอุ่น อยู่ตรงไหนแล้วใจมันฟู ตรงนั้นมันก็คือมีความรักค่ะ”

ถามถึงฉายาเน็ตไอดอลภาคพื้นทะเล และ สก๊อยลักชัวรี่?

ดิว – “เน็ตไอดอลภาคพื้นทะเล คือแม่ชม (ชมพู่ อารยา) ตั้งให้ นางเป็นคนเรียกดิว คนแรก หลังจากนั้นทุกคนก็ก๊อบปี้แม่ ตอนนั้นไปลงเรือด้วยกันแล้วแม่พูดว่าขานี้ไม่ใช่ ขาแล้ว แต่เป็นครีบ นางก็แซวอย่างนั้น คือเริ่มต้นจากคุณแม่ชม”

“ส่วน สก๊อยลักชัวรี่ น่าจะมาจากคนที่ไม่ชอบแล้วด่าเราว่าเป็นสก๊อยมาก่อน เราก็เป็นสก๊อยก็ได้ แต่พอคนที่รักเรารู้ว่าดิวโอเคกับการเป็นสก๊อย เขาก็เพิ่มคำว่าลักชัวรี่ให้ เราเลยยอมรับว่าใช่ๆ ฉันเป็นสก๊อยลักชัวรี่ ยกระดับขึ้นมานิดหนึ่ง”

“ซึ่ง 2 ฉายามันเป็นตัวเราทั้งคู่ เน็ตไอดอลภาคพื้นทะเลทุกคนก็จำแล้วว่าเป็นเรา ส่วนสก๊อยลักชัวรี่เวลาติดฮาเราก็จะพูด เพราะ ก็ไม่ได้อยากลืมตัวตนตัวเองหรืออดีต ต่อให้ไม่ดียังไงก็ไม่เคยอยากให้หายไปขนาดนั้น”

ปีนี้ถือว่าเจอเรื่องราวอะไรเยอะพอสมควร ก้าวผ่านแต่ละเรื่องมาได้อย่างไร?

ดิว – “ชีวิตดิวเจอดราม่าทุกปี ปีนี้อาจจะเจอติดๆ กัน เรื่องพลุเอย เรื่องคู่กรณี คนนั้นเอย ถามว่าผ่านแต่ละเรื่องมาได้ยังไง ดิวคิดเสมอว่าทำผิดก็ยอมรับผิด อะไรจริงก็ว่าตามนั้น แค่นั้นแหละมันก็ผ่านไปได้ เพราะสุดท้ายดิวเชื่อว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีหัวใจ ไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดไม่ให้อภัย คนที่ไม่ให้อภัยก็มี แต่ส่วนใหญ่แล้วให้ ยอมรับกับความคิดเห็นของคนอื่น และพร้อมจะเข้าใจ ดังนั้นถ้าเราจริงใจไปมันคือจบ”

“ดิวอาจจะมีหลายๆ อย่างที่ผิดพลาด แต่ดิวจะเป็นคนมีความคิดและเหตุผลของตัวเอง ดิวเป็นคนไม่ได้ประดิษฐ์ เลยเป็นเรื่องปกติที่เราจะเป็นอย่างนี้ บางคนอาจจะเห็นว่าคนนี้อีกแล้ว มีเรื่องอีกแล้ว ถึงบอกไงว่าดิว ไม่ได้คิดหรอกว่าตัวเองจะมาอยู่จุดนี้หรือในวงการบันเทิงนี้ ความเป็นดิวบางทีอาจจะย้อนแย้งกับจุดที่ดิวอยู่ แต่ดิวพยายามทำให้กลมกลืนไปกันมากที่สุด โดยสิ่งที่เราทำต้องมีเหตุผล แล้วก็เบาลงเยอะ โตขึ้น คิดได้มากขึ้น”

คิดไหมว่าตัวเองจะมาไกลขนาดนี้?

ดิว – “ไม่เคยคิด และที่มาได้ไกลอย่างทุกวันนี้ไม่ได้แค่เพราะโชคช่วย แต่ดิวโชคดีที่มีคนรอบข้างดี ดิวมาได้ขนาดนี้ยกให้เป็นความดีความชอบของคนรอบตัว คนรอบตัวคือทุกตำแหน่งทุกที่นะคะ พอได้สัมผัสกันจริงๆ จะรู้ว่าทุกคนรักเรา และเต็มที่กับเราจริงๆ จะเป็นดิววันนี้ไม่ได้เลยถ้าไม่มีพวกเขา เหล่านั้น เพราะถ้าไม่มีคนเหล่านั้น ดิวอาจยอมแพ้ไปแล้วก็ได้”

“ตอนนี้ดิวอยากรันตัวเองในวงการบันเทิงด้วยความรักและแพสชั่น ต้องบอกว่าดิวไม่เคยมีความฝันที่ฉันจะไปถึงดวงดาว ไม่เคยคิดว่าฉันอยากเป็นซูเปอร์สตาร์หรือเน็ตไอดอล เพราะตอนแรกที่เริ่มมาคือเริ่มจากติดลบ ฉะนั้นดิวจะไม่มีความฝันหรือความหวังอะไรเลยในชีวิต เพราะกลัวผิดหวัง พอตอนนี้มาไกลมากเกินไปแล้วก็เลยไม่ได้คาดหวังอะไร เลยค่ะ”

จิรณัฏฐ์ จงประสพมงคล

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ