บอร์ดอัยการมีมติสอบวินัยร้ายแรง “เนตร นาคสุข” อดีตรองอัยการสูงสุดที่สั่งไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” ในคดีขับรถชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผลการประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) พิจารณาผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ในคดีขับรถชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มีนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ กรรมการอัยการ (ก.อ.) ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธาน ได้สรุปสำนวนการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว เห็นว่า นายเนตร มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง เพราะไม่พบการทุจริต แต่เป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่
ล่าสุดวันนี้ (21 ก.ย.) นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ หรือ ก.อ. เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯ สรุปผลการสอบสวนทางวินัย นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหาคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2555 โดยที่ประชุมฯ มีมติ 9 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง ลงความเห็นว่า นายเนตร ขาดความรอบคอบ ประมาทเลินเล่ออย่างค่อนข้างร้ายแรง จึงให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง โดยมี นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อดีตอธิบดีสำนักงานอัยการคดีพิเศษ เป็นประธานสอบ มีระยะเวลาสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น 60 วัน และสามารถขอขยายระยะเวลาได้อีก 2-3 ครั้ง
ทั้งนี้ จะสอบสวนในประเด็นการสั่งคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง โทษสูงสุดคือไล่ออก หากผู้เสียหายไม่พอใจหรือไม่เห็นด้วย สามารถฟ้องต่อศาลปกครองได้ ส่วนประเด็นที่นายเนตร จะยื่นหนังสือลาออกอีกเป็นครั้งที่ 2 นั้น เป็นอำนาจของอัยการสูงสุดพิจารณา
ส่วนจะมีการประสานข้อมูลกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) หรือไม่ นายพชร กล่าวว่า ในชั้นต้นก็ต่างคนต่างสอบ แต่ว่าอาจจะไปรวมกันทีหลังก็ได้ สำหรับในข้อมูลยังมีอัยการชื่อย่อ ช. อีกคนที่เข้าไปมีส่วนร่วมในคดีนี้ นายพชร ชี้แจงว่า ได้สั่งการให้คณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงของนายธนพิชญ์ดำเนินการสอบในเรื่องนี้ด้วยแล้ว ส่วนจะเป็นวินัยร้ายแรงหรือไม่ ต้องพิจารณาอีกครั้ง
กรณีนายวงศ์สกุล อัยการสูงสุดยื่นหนังสือต่อ ก.อ. ว่าไม่ประสงค์จะเป็นอัยการอาวุโส ที่ประชุม ก.อ.ได้พิจารณาแล้วและอนุมัติตามนั้น ซึ่งนายวงศ์สกลจะพ้นวาระการเป็นข้าราชการอัยการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ส่วนการเสนอแต่งตั้งให้นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ นายพชร ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีการนำเข้าที่ประชุม ก.อ. ในวันนี้ อันที่จริงเรื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม ก.อ. เพราะเป็นเรื่องที่อัยการสูงสุดจะเป็นผู้สั่งการในฐานะผู้บังคับบัญชา