บอย พีรพล เปิดใจเหตุฟ้อง บิ๊ก ทองภูมิ 20 ปีไม่เคยเจอ ลั่น! ไม่ขอร่วมงานอีก

Home » บอย พีรพล เปิดใจเหตุฟ้อง บิ๊ก ทองภูมิ 20 ปีไม่เคยเจอ ลั่น! ไม่ขอร่วมงานอีก


บอย พีรพล เปิดใจเหตุฟ้อง บิ๊ก ทองภูมิ 20 ปีไม่เคยเจอ ลั่น! ไม่ขอร่วมงานอีก

ผู้จัด บอย พีรพล เปิดใจเหตุฟ้อง บิ๊ก ทองภูมิ เทละคร-เสียหาย 3 ล้าน ลั่น 20 ปีไม่เคยเจอ ขึ้นบัญชีดำไม่ขอร่วมงานอีก

จากกรณีที่ คุณกนกวรรณ(หุ้นส่วน) ของผู้จัด บอย พีรพล ในนามบริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้จัดทำละคร “วิญญาณแพศยา” ทางช่อง8 พร้อมด้วยทนายความ นายธนพนธ์ ทองน้อย ขึ้นศาลจังหวัดนนทบุรี ตามที่ได้ยื่นฟ้องนักแสดงชื่อดัง บิ๊ก ทองภูมิ ในข้อหาผิดสัญญาและเรียกค่าเสียหาย

หลังจากที่ทางบริษัทถูกนักแสดงหนุ่มเบี้ยวงานไม่มาถ่ายละครหลายครั้ง พร้อมส่งจดหมายมาขอหยุดการถ่ายทำละครของตัวเอง โดยให้เหตุผลว่ามีปัญหาทางด้านบริษัทของนักแสดงหนุ่ม ทำให้กองถ่ายละครได้รับความเสียหายหลักล้าน จนต้องมีการเปลี่ยนตัวละครแบบฟ้าผ่า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ต่อสายตรงไปหา บอย พีรพล ผู้จัดละครเรื่องดังกล่าว ถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวก่อนนำไปสู่การฟ้อง บิ๊ก ทองภูมิ ให้ฟังว่า “เรามีการติดต่อเขามาเล่นละคร ทุกอย่างปกติมาเข้าฉากก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ่ายไปได้ประมาณ 6 คิว ค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งตีเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท”

“แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเขาไปทำงานกับบริษัทอะไร แล้วตั้งว่าเขาเป็นประธานบริษัท แล้วบริษัทนั้นส่งหนังสือมาถึงช่อง8 และมาถึงเราว่า เขาไม่สะดวกจะเล่นละครเรื่อง วิญญาณแพศยา แล้ว บริษัทให้ถอนตัว โดยส่งรายชื่อประธานบริษัท ที่ปรึกษา และใครต่อใครมา เราก็เลยงงว่าคืออะไร ที่ถ่ายไปจะทำยังไง”

“จริงๆ แล้วทั้งเรื่องเขาน่าจะมีประมาณ 10 กว่าตอน แต่เราหาทางแก้ปัญหาเท่าที่จะช่วยได้คือถ้าไม่สะดวกที่จะมาเล่นแล้ว ในเมื่อมันถ่ายไปแล้วก็เจอกันครึ่งทาง โดยให้บิ๊กมาเก็บฉากที่มันต่อเนื่องนิดๆ หน่อยๆ ให้เรา เราจะตัดบทให้เหลือแค่ชาติแรกเพราะจริงๆ ตามบทเขาต้องไปเกิดอีกชาติหนึ่งเป็นตัวเขาอีก งั้นก็จะเปลี่ยนให้เกิดมาเป็นคนอื่นแทน”

“ฉะนั้นมาถ่ายให้เราอีกแค่ 2 คิว แล้วปิดและจบ มันจะไม่ได้มีปัญหาทั้งสองฝ่าย แล้วบิ๊กก็เอาค่าตัวไปเลย เราเองก็จะได้ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายที่ถ่ายมาแล้ว 6 คิว แล้วจะต้องทิ้งถ้าเกิดบิ๊กไม่มาเล่น เขาก็ไม่ยอมมาเล่นแม้กระทั่ง 2 คิวก็ไม่มา แล้วก็ติดต่อไม่ได้ ไม่รับโทรศัพท์ ตามที่พี่สาวตามที่ทุกคน ไม่ว่าจะให้ใครโทรวิธีใดยังไงก็ตามก็ไม่สนใจ สุดท้ายมันก็ต้องเป็นแบบนี้แหละครับ”

ช่วงที่เกิดปัญหานานไหม? “เกิดเมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว เปิดกล้องมาเราก็เริ่มถ่ายเขาเลยเพราะเขาเป็นชาติที่หนึ่ง ส่วนฟางเส้นสุดท้ายที่คิดว่าต้องดำเนินการฟ้องร้องแล้ว เพราะเรามองว่ามันคือความรับผิดชอบ ที่ผ่านมาทำงานมา 20 ปี ไม่เคยเจอนักแสดงคนไหนที่ทำแบบนี้ ไม่คิดว่าตัวเองจะเจอด้วยซ้ำ มันคือหน้าที่และอาชีพของตัวเอง ฉะนั้นในเมื่อเราเสียหายจากความไม่รับผิดชอบของเขา เขาก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำ”

ถือเป็นครั้งแรกที่ร่วมงานกับบิ๊กไหม? “ใช่ครับครั้งแรก พอเรามาเจอคนอื่นก็จะมาพูดว่าเขาก็เป็นอย่างนี้นะ เรื่องอื่นก็มีบ้างที่ถอนตัวโน่นนี่นั่น เราก็เอ้า! ไม่เห็นเคยรู้เรื่องเลย แล้วทำไมเกิดเหตุการณ์อย่างนี้มันก็น่าจะมีคนจัดการ เพื่อเขาจะได้ให้รู้ว่าไม่ควรไปทำแบบนี้กับที่อื่น”

6 คิวที่ถ่ายไป เท่ากับรื้อถ่ายใหม่หมดเลย? “รื้อใหม่ครับ เปลี่ยนเป็น กิก ดนัย มาเล่นแทน ส่วนมูลค่าความเสียหายน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านบาท พอเจอแบบนี้ก็หวั่นๆ เหมือนกัน คิดว่าหลังจากเคสนี้ช่องคงให้นักแสดงเซ็นสัญญาเรื่องการถ่ายทำแล้วแหละ จริงๆ ไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะมันคืออาชีพที่ตัวเองดำรงชีพอยู่ ทำแบบนี้ก็เสียกับตัวเองด้วย เสียกับคนอื่นๆ ที่ร่วมงานด้วย”

“คือมันไม่ได้เสียหายเฉพาะเรา เสียหายทั้งนักแสดงและทีมงานที่เขาต้องมาทำงาน 2 รอบ นักแสดงก็ต้องมาถ่ายใหม่กันหมด ไม่ว่าจะเป็น ตอง(ภัครมัย), น้ำตาล(ชลิตา) หรือหนุ่ม(ศรราม) ทุกคนเล่นเต็มที่ไปแล้ว แต่สุดท้ายกลับต้องมาเล่นใหม่เพราะความไม่รับผิดชอบของคนคนหนึ่ง”

ตั้งใจเอาเรื่องถึงที่สุดไหม? “คงต้องตามนั้น แต่ถ้าจะมาไกล่เกลี่ยก็คงพูดคุยกันได้ แต่อย่างที่บอกค่าใช้จ่ายที่เราเสียไปเราก็ต้องได้คืนมา ถามว่าโกรธไหม คือมันก็ต้องรู้สึกเนอะ เราจะงงว่าเกิดขึ้นได้ยังไงโดยที่ไม่มีเหตุผลว่ามาที่กองแล้วเกิดอะไรขึ้น ทะเลาะกับคนนั้นคนนี้ ไม่มีเลย แต่เหตุผลคือจะไปทำงานที่บริษัท แล้วบริษัทบอกว่าไม่ให้มาเล่นแล้ว เพราะงานบริษัทมีระดับเป็นหลายๆ ล้าน เขาแต่งตั้งเป็นประธานบริษัท เราก็แบบ…อ่อเหรอ มีอย่างนี้ได้ด้วยเหรอ”

ขึ้นบัญชีดำเลยไหมว่าไม่ขอร่วมงานด้วยอีก? “คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ ไม่ใช่ว่าโกรธเขานะ แต่คงไม่กล้าร่วมงานด้วย เพราะเราก็ไม่แน่ใจว่าถ้าเกิดเขามาทำซ้ำอีกเราจะทำยังไง สุดท้ายนี้ถามว่าอยากฝากอะไรถึงเขา มันคงเกินจะฝากแล้วเนอะ มาถึงขั้นนี้กันแล้ว ถ้าเขามารับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำไปแค่นั้นก็น่าจะจบกันด้วยดีได้”

หลังจากที่ฟ้องร้องไป เขาได้ติดต่อมาไหม? “ติดต่อมาแล้ว ทั้งตัวบิ๊กเองและทนายด้วย เดี๋ยวอีกสักพักคงจะมีนัดไกล่เกลี่ยกันและรอดูอีกทีว่าบทสรุปจะเป็นยังไง”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ