บอย ปกรณ์ ชี้แจงแทน หน่อง ธนา ปมดราม่าร้องไห้กลางวงสัมภาษณ์

เกิดดราม่าขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์เลยทีเดียว สำหรับกรณีที่นักแสดงหนุ่ม หน่อง ธนา ร้องไห้กลางวงสัมภาษณ์ หลังเจอนักข่าวถามเรื่องเตรียมตัวบวช ล่าสุดพระเอกหนุ่ม บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ พี่ชายของหน่อง ที่มาร่วมงานเปิดตัวคอลเล็กชั่นล่าสุด sasi with BT21 ที่สยามเซ็นเตอร์ ได้ออกมาชี้แจงหลังได้คุยกับน้องชายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วว่า

“ความจริงมันไม่ได้มีอะไรใหญ่โตอย่างที่ทุกคนคิดนะครับ ความจริงมันไม่ได้มีอะไรเลย ได้คุยกับหน่องแล้ว และได้เห็นตัวคลิปสัมภาษณ์ด้วย คือหน่องพูดถึงเรื่องบวช และพูดถึงเรื่องความเครียดของเขา ซึ่งผมก็รับรู้ได้ว่าเขาเครียดจริงๆ ทั้งเรื่องงานของเขาด้วย ผมว่าน่าจะมีเรื่องอื่นๆ อีก ผมพูดตรงๆ ผมอาจจะไม่รู้ก็ได้ ความจริงแล้วเราเป็นพี่น้องกันก็จริง แต่ว่าเราไม่ได้รู้เรื่องทุกเรื่องของเขา แต่ที่เรารู้หลักๆ ก็คือเรื่องงานของเขา

ผมถามเขาเมื่อวาน ว่าในงานมันมีอะไร เขาบอกว่าช่วงนี้เขาเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้ว เหมือนใจเขาไม่ค่อยนิ่ง เขามีหลายเรื่องให้คิด ทั้งเรื่องที่เขาต้องเตรียมตัวจะบวช และมีเรื่องงานที่ต้องเคลียร์ เรื่องส่วนตัวหลายอย่าง หลักๆ ไม่ได้มีอะไรใหญ่โต อยากจะบอกว่าได้เห็นแล้วแหละ ตามหน้าทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก ขอบคุณแทนน้องชายผมด้วย ขอบคุณความเป็นห่วงเป็นใย ความรู้สึกของน้องชายผม แต่ตอนนี้หน่องก็โอเคแล้วครับ”

หน่องกังวลกลัวเรื่องจะเคลียร์งานไม่เสร็จ? “ด้วยครับ มีหลายอย่างที่เขากังวล ผมขอพูดอีกนิดหนึ่ง ผมไม่ได้ออกตัวแทนใคร แค่อยากจะพูดข้อเท็จจริงที่มันเกิดขึ้นแล้วกัน

พี่นักข่าวเขาได้มีการโทร.ไปคุยกับหน่องแล้ว ความจริงเป็นพี่นักข่าวที่รู้จักกันอยู่แล้ว คือหน่องก็ไม่ได้ติดใจอะไร เคลียร์กันเรียบร้อย อย่างที่บอก ขอบคุณทุกคนที่ห่วงความรู้สึกหน่อง”

คุณแม่ได้คุยกับหน่องหรือเปล่า หลังจากที่มีข่าวออกไป? “มีการได้คุยกัน แล้วผมเองก็อยู่ หน่องกับแม่ด้วย ทุกคนก็ถาม เป็นห่วงหน่อง ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เขาบอกว่ามีความเครียดเรื่องงาน เครียดเรื่องโน้นเรื่องนี้ แต่ผมเชื่อลึกๆ ว่าอาจจะมีเรื่องอื่นอีก บางทีมันเป็นเรื่องส่วนตัวที่เขาก็ไม่ได้บอกเรา เขาก็จะเก็บไว้”

เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนไหม? “อยากจะบอกว่า หน่องในลุกส์ที่ทุกคนเห็น เป็นหน่องที่ลั้ลลา บางทีก็พูดอะไรไปเรื่อย หรือบางทีก็ติสต์บ้าง แต่ความจริงหน่องเขามีมุมนี้ของเขาอยู่แล้ว เขามีมุมที่แบบว่า

ถ้าเขาเครียดหรือว่ามีอะไรในใจ เขาจะไม่ค่อยพูด แต่เราสังเกตได้ เขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว แต่มีช่วงนี้อาจจะมีอะไรหลายๆอย่าง ในเรื่องของเวลาที่กระชั้นเข้ามา แล้วเดี๋ยวก็ต้องบวชแล้ว มันเลยทำให้เขามีความกดดันข้างในมั้งผมว่า”

เราช่วยให้กำลังใจกันยังไง? “ผู้ชายมันก็ช่วยกันแบบผู้ชาย บอกว่าไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวมันก็ผ่านช่วงนี้ไป เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น เคลียร์งานซิ โน่นนี่ คือผู้ชายมันไม่ต้องพูดอะไรเยอะ ส่วนรื่องบวช ถามว่าหน่องได้มาปรึกษาบ้างไหม คุยครับ มันเป็นเรื่องสำคัญของที่บ้านอยู่แล้ว เราต้องปรึกษากันในบ้านอยู่แล้ว ความจริงหน่องอยากบวชมานานแล้ว

ผมเองก็อยากบวช แต่เรื่องภารกิจหน้าที่มันยังไม่สามารถหาจังหวะลงล็อกได้ หน่องเขาอยากบวชมานานแล้ว และตอนนี้เขาก็สามารถเคลียร์ทุกอย่างได้ มาลงล็อกช่วงนี้ มันเป็นจังหวะที่ว่าต้องตอนนี้แล้ว ถ้าไม่เป็นตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีจังหวะที่จะบวชได้เมื่อไหร่ มันเลยเป็นสาเหตุที่ว่ามีความปุ๊บปั๊บนิดหนึ่ง”

ครั้งนี้คือหน่องอยากบวชเอง ไม่ได้เป็นการบวชแก้บน? “ไม่มี การบวชนี้ เหมือนกับผู้ชายคนหนึ่งที่บวช แล้วก็เป็นการบวชทดแทนบุญคุณของพ่อแม่ด้วย หน่องอยากบวชเอง ตอนนี้ภัทรบวชแล้ว หน่องกำลังจะบวช ผมเองก็อยากบวชนะ

จนตอนนี้ผมรู้สึกว่าความจริงผมควรจะบวชได้ตั้งนานแล้ว จังหวะมันยังไม่มี พอบวชเสร็จ ต้องรอผมยาว คืองานมันมีต่อเนื่องเข้ามาเรื่อยๆ มันเลยยังไม่สามารถหาจังหวะที่ลงล็อกได้เท่านั้นเอง”

หลายคนก็คิดแทนว่า ที่หน่องบวชเพราะคุณแม่เป็นอะไรหรือเปล่า เพราะพอถามหน่องก็ร้องไห้?

“ไม่มีครับ อย่างที่ผมบอก หน่องเขาคงกังวลเรื่องโน้นเรื่องนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องแม่ ถ้าเกี่ยวกับคุณแม่ก็คือเป็นการบวชเพื่อทดแทนบุญคุณให้คุณแม่คุณพ่อเป็นปกติอยู่แล้ว ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องของเวลาที่บีบเข้ามา มีเรื่องงานที่ยังจัดการไม่เสร็จ ผมว่าอาจะมีเรื่องอะไรข้างในของเขาอีก เขาก็ไม่ได้บอกเรา”

เขาตื้นตันด้วยไหมเรื่องจะได้บวช? “ผมว่าเวลาที่หน่องพูดเรื่องนี้ เขามีความตื้นตัน บวกกับดีใจปนๆ เข้ามาด้วยว่าในที่สุดก็ได้บวชแล้ว ได้ทำตามในสิ่งที่อยากจะทำ ผมไม่รู้ว่าแต่ละบ้านจะคิดยังไง แต่สำหรับบ้านผม การบวชคือการทดแทนบุญคุณให้กับพ่อแม่ของเรา

ซึ่งตรงนี้เราอยากทำให้อยู่แล้ว อยากให้ทุกคนร่วมอนุโมทนาบุญให้กับหน่องด้วย มันไม่ได้มีอะไรจริงๆ ผมเห็นแล้วแหละ และคิดว่าเดี๋ยวทุกคนต้องตีความโน่นนี่ แต่จริงๆ ไม่ได้มีอะไรแบบที่ทุกคนตีความ”

ในส่วนของบอยเอง เมื่อคืนก็โพสต์สตอรี่เดือดประมาณหนึ่ง? “ผมเองก็เป็นคนที่เวลาที่รู้สึกอะไร หรือว่าเจอเหตุการณ์อะไรก็ตาม ผมเป็นคนไม่ค่อยโพสต์ ไม่ค่อยเล่าออกสื่อ โดยเฉพาะที่เป็นเรื่องซีเรียส

แต่เมื่อวานผมคงรู้สึกอึดอัดจริงๆ มันก็เจอเหตุการณ์อะไรมา มันก็มีคน ผมว่าทุกคนเคยเจอกันมาหมด ทั้งเจอคนที่ดีกับเรา คนที่ไม่ดีกับเรา ไม่ซื่อตรงกับเรา ผมเองเพิ่งเจอมา แล้วมานั่งคิดก็รู้สึกว่าชีวิตนี้เจออะไรอย่างนี้มาเยอะเหมือนกันนะ”

มันเกี่ยวกับเรื่องงาน หรือว่าเป็นเรื่องอื่น? “ความจริงแล้วที่ผ่านมา เราก็เจอหลายเรื่องราวอะไรพวกนี้มาเยอะ ก็เอามารวมอยู่ในโพสต์นี้แหละ ปกติเป็นคนที่ถ้าจะโพสต์พวกนี้ จะรู้สึกว่าไม่รู้จะลงทำไม เก็บความอึดอัดไว้ แต่เมื่อวานมันคงอึดอัดมากๆ เวลาเจอปัญหาแบบนี้ผมก็เคลียร์ไป มันมีทั้งที่เคลียร์ได้ เคลียร์ไม่ได้ คาราคาซัง”

เคสต์นี้เคลียร์ได้ไหม? “กำลังเคลียร์อยู่ครับ ผมว่ามันเป็นปกติของทุกคนที่เคยเจอ แล้วมันก็อยู่ในอารมณ์ที่ว่า หรือว่าเราใจดีกับเขาเกินไปหรือเปล่า เลยคิดว่าจะทำยังไงกับเราก็ได้ ซึ่งผมเป็นแบบนี้มานานมาก ถ้าเกิดได้คุยได้ติดต่อกับใคร หรือรู้สึกกับใคร ผมเป็นคนที่ค่อนข้างให้ใจเหมือนกัน

เราทำดีกับเขาเต็มที่แบบที่เราเป็น ถ้ามันจะเกิด คงต้องให้มันเกิด อะไรที่เกิดขึ้นก็ให้เป็นบทเรียนกับเราว่าในครั้งต่อไประวังตัวให้มากขึ้นเท่านั้นเอง ไว้ใจคนได้ แต่ต้องระวังมากขึ้นนิดนึง คงไม่ถึงขั้นที่ว่าต้องทำตัวให้เข้าถึงยาก หวาดระแวงตลอดเวลา เราก็คงเป็นแบบที่เราเป็นนี่แหละครับ”