บทเรียนชีวิต โทนี่ รากแก่น เปิดใจ หลังเจอดราม่าครั้งใหญ่ ด่าสลิ่ม-3กีบ

Home » บทเรียนชีวิต โทนี่ รากแก่น เปิดใจ หลังเจอดราม่าครั้งใหญ่ ด่าสลิ่ม-3กีบ


บทเรียนชีวิต โทนี่ รากแก่น เปิดใจ หลังเจอดราม่าครั้งใหญ่ ด่าสลิ่ม-3กีบ สุดงง ยุคนี้ยังบูลลี่กันอีก หลัง แก้ว จริญญา ถูกทักขาเล็ก

วันที่ 8 พ.ย. 64 ในงานบวงสรวงเปิดกล้องละครพีเรียดฟอร์มยักษ์ “บุษบาลุยไฟ” ณ ศาลพระพรหม ไทยพีบีเอส (Thai PBS) ได้มีการเปิดตัวพระเอกของเรื่องอย่างเป็นทางการ นั่นก็คือ นักแสดงหนุ่ม โทนี่ รากแก่น

โดยหลังจบพิธี โทนี่ ได้เปิดใจกับสื่อถึงช่วงมรสุมดราม่า ที่โดนทัวร์ลงหลังโพสต์ซัด สลิ่ม-สามกีบ และบอกตัวเองเป็นกลาง ไม่อยู่ฝ่ายไหน รวมถึงเรื่องที่ภรรยาสาว แก้ว จริญญา ออกมาซัดกลับชาวเน็ตที่เข้าท้วงติงเรื่องขาเล็ก พร้อมทั้งอัพเดตชีวิตในช่วงที่ไม่มีงานแสดง

อัพเดตชีวิตเป็นยังไงบ้าง?

“ตอนนี้ก็ได้เริ่มกลับมาถ่ายละครแล้วครับ ก่อนหน้านี้ก็จะไม่ได้ทำงาน ไม่ได้มีโอกาสทำอาชีพที่เราทำมาตลอดก็คือเป็นนักแสดง เพราะเปิดกองไม่ได้ ก็เลยไปลองทำสวนดู”

 

เห็นมีการก่อสร้างขึ้นมา จริงจังขนาดไหน?

“จริงจังขนาดไหน อยากให้ลองไปดูในยูทูบ (หัวเราะ)”

 

พอเรากลับมาทำงานแล้วตรงนั้นทำยังไง?

“ต้องแบ่งเวลาเลยครับ เพราะพอเรื่องนี้เปิดกล้อง ก็กลายเป็นทำงาน 7 วัน ซึ่งตรงนั้นผมว่าก็อาจจะประมาณ 2-3 เดือนถึงจะเสร็จครับ แล้วก็จะย้ายไปอยู่ที่นั่นครับ”

 

อันนี้คือชีวิตที่เรียบง่ายที่แท้จริงเลยไหม?

“ถามว่าเรียบง่ายหรือเปล่า มันก็ยากครับ มันไม่ง่ายขนาดนั้นครับ”

 

แล้วยูทูบที่เราเคยทำมันจะกลับมาไหม?

“พอดีว่ามันเดินทางไม่ได้ เราก็เลยพักไปก่อน แต่ว่าตอนนี้มีอีกอันนึงที่เรากำลังทำ ชื่อว่า เดอะ วีกเอนด์ ครับ ก็คือเอาเฉพาะวันหยุด วันว่าง สมมุติเราหยุดวันอังคาร วันพุธ กับแก้วเราก็หาสถานที่ไปกัน ก็เป็นไลฟ์สไตล์ด้วย และไปใกล้ๆ ครับ ไม่ถึงขั้นไปต่างประเทศ”

 

เรื่องมีน้องยังไม่เปลี่ยนใจเหรอ?

“ช่วงโควิดที่ผ่านมาก็คุยกันเยอะนะครับเรื่องนี้ เพราะพอเราได้อยู่ในภาวะที่ไม่ต้องทำงานเยอะเหมือนเดิม เราก็รู้สึกว่าเมื่อก่อนเรานึกไม่ออก เพราะว่าเราทำงานทุกวัน แต่พอไม่ได้ทำงาน ได้อยู่ด้วยกัน ก็รู้สึกว่าถ้าเกิดมีลูกมันจะเป็นยังไง ก็คิดไว้บ้าง แต่น่าจะต้องวางแผนกันดีๆ ครับ”

 

จริงๆ อยากมีไหม?

“นิดนึงครับ อย่างเรื่องล่าสุดที่เราไปเล่นก็เกี่ยวกับเราได้มีโอกาสเลี้ยงลูก เบบี๋ เหมือนได้เทสต์ไปในตัว”

 

แก้วว่ายังไงบ้าง?

“คุยกันเรื่องนี้ก็คิดเห็นเหมือนกันครับ ว่าถ้าเกิดเราอีกสักพักนึง ให้เราได้มีโอกาสได้เดินทางด้วย ก็ค่อยมองถึงเรื่องนี้กัน”

วางไว้อีกกี่ปี?

“ปีหน้ายังครับ ผมว่า 3-4 ปี”

 

แล้วละครที่บอกว่าจะต้องมีลูกด้วยถ่ายไปถึงไหนแล้ว?

“ถ่ายไปประมาณครึ่งทางแล้วครับ เล่นกับแก้วด้วย เรื่องราวเหมือนเราไปทำเขาท้อง เราก็ต้องไปเลี้ยงลูกเขา ในเรื่องนะ”

 

เห็นภาพตัวเองเป็นพ่อเลยไหม?

“ต้องเห็น เพราะเราต้องอินด้วย แต่ว่าในเรื่องเราไม่ใช่พ่อที่ดีเท่าไหร่ครับ”

 

เป็นยังไงบ้างเลี้ยงลูกในเรื่อง?

“ผมว่าความยากในการเรื่องลูกมันเป็นซีนๆ มันไม่ได้ว่าเราเลี้ยงจริงขนาดนั้น แต่ความยากจริงๆ คือการเล่นละครกับเด็กมากกว่า เพราะเด็กที่เราเล่นด้วยเขาอายุน้อยมาก บางทีเขาอาจจะยังไม่เข้าใจในบางส่วน แต่เขาเก่งมาก โชคดีมากที่ได้น้องคนนี้มา แล้วเขามีความเป็นธรรมชาติมาก ความยากผมว่าน่าจะทำงานร่วมกับเด็กครับ”

 

เรื่องดราม่าของแก้ว มีคนทักแก้วเรื่องขาเล็ก แก้วเลยต้องชี้แจง

“คือเขาก็มองถึงคนอื่นมากกว่า ผมก็ถามว่าแก้วเองรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ เขาก็บอกว่าไม่ได้รู้สึกแย่กับสิ่งที่คนพูด แต่เขารู้สึกแย่กับทำไมคนยังทักกันแบบนี้อยู่ในสังคมปัจจุบันที่มันมีความหลากหลายมากขึ้น ผมรู้สึกว่าความสวยงามมันคงเปลี่ยนไปเยอะในยุคปัจจุบัน บางคนชอบแบบนี้ก็ชอบแบบนี้ เขาก็เลยอยากจะฝากบอกไปมากกว่า”

โดนหลายครั้งไหม?

“เขาก็โดนอยู่เรื่อย เขาก็เล่าให้ฟังว่าตั้งแต่เด็กแล้วเขาก็โดนแบบนี้ เหมือนทรงหน้าเขาคนก็จะมองว่าอดอาหารเหรอ กินไม่พอเหรอ ซึ่งจริงๆ เขากินเยอะมาก เขากินเยอะกว่าผมอีกบางที แต่เขาไม่อ้วนเอง เขาน่าจะเป็นคนที่สรีระแบบนั้น”

 

ให้กำลังใจยังไงบ้าง?

“อยู่ด้วยกันทุกวันก็เป็นกำลังใจที่ดีแล้วครับ (ยิ้ม)”

 

เขามีปรึกษาเราก่อนไหมว่าเราควรจะโพสต์หรือเมนต์ตอบเขาไหม?

“คือต่างคนต่างมีความคิดเป็นของตัวเองอยู่แล้วครับ เราก็เคารพในการตัดสินใจในกันและกันอยู่แล้ว”

 

รู้สึกยังไงที่มีคนมาจับจ้องตลอด?

“ผมเองเป็นเหมือนคล้ายๆ ตัวตลกในกลุ่มอยู่แล้ว ก็จะโดนแซวตลอดว่าเท้าผมเหมือนตีนหมี อ้วนๆ บวมๆ เราก็โดนแซวอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว เหมือนเราชินกับเรื่องนี้ แต่ทุกวันนี้เราเห็นสังคมพูดถึงเรื่องนี้กันเยอะ เราก็รู้สึกว่าจริงๆ แล้วมันมีวิธีการทักทายกันอีกแบบนึงนี่หว่า มันมีมุมมองอีกแบบนึง ก็แค่มองเห็นว่ามันมีมุมมองหลากหลายมากขึ้น”

 

บั่นทอนความรู้สึกเราขนาดไหน?

“สำหรับผมว่าความคิดเห็นของทุกคนก็เป็นประโยชน์ บางทีเราก็นึกว่าเรารู้ แต่บางทีเราก็ไม่รู้ มีหลายอย่างที่เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทุกวัน ต่อให้เราอายุมากขึ้น ผมว่ายิ่งแก่ขึ้นเราก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองรู้น้อยลง ผมว่ามองเป็นประโยชน์ก็ดีครับ”

 

ต้องพาแก้วไปโด๊ปให้มีน้ำมีนวลมากขึ้นไหม?

“ตอนนี้เราเน้นออกกำลังกายครับ จะมีฟิตเนสเทรนเนอร์มาคอยดูแลเรื่องกล้ามเนื้อ เรื่องสุขภาพ คือพอเราไปทำสวนเราจะรู้เลยว่าถ้าร่างกายเราไม่พร้อมมันจะเหนื่อยง่าย และจะบาดเจ็บได้ง่าย เราก็เลยไปเรียนรู้วิธีการใช้กล้ามเนื้อที่ถูกต้อง”

 

ย้ำอีกครั้งว่าถึงแก้วจะผอมแต่สุขภาพดี?

“ใช่ๆ ถึงเขาจะดูผอม แต่พวกเราทั้งสองคนก็พยายามมีสุขภาพที่ดีครับ”

 

ช่วงที่ผ่านมาเจอดราม่าหลายเรื่อง?

“ก็ได้เรียนรู้ครับ เป็นประสบการณ์ชีวิตอย่างนึงที่เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้นด้วยว่าสิ่งที่เราคิดบางอย่างไม่ถูกต้อง ก็ไม่จำเป็นต้องไปยึดติดความคิดของเรามากไป เราก็เปลี่ยนแปลงได้ ผมว่าต้องขอบคุณหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นช่วงที่ผ่านมานะครับ ที่ทำให้เราได้เห็นตัวเองมากขึ้น ได้เห็นภาพกว้างของสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่งั้นเราก็จะเห็นมุมแคบๆ ของเราอยู่แค่นี้ จริงๆ มันมีความหลากหลายมากครับ”

ตอนนั้นมีหลายคนแสดงความคิดเห็นไปเสนอความคิดให้เราฟัง เรารู้สึกยังไง?

“รู้สึกว่าได้เรียนรู้หลายๆ อย่าง คือเราในฐานะนักแสดง ศิลปิน ความรู้เราก็จะมีแค่ความเป็นศิลปิน เราไม่สามารถที่จะรู้อะไรมากกว่านั้น เพราะสิ่งเหล่านั้นมันเป็นเรื่องของวิชาการ พอเรามองในมุมมองแคบๆ มันก็ทำให้หลายๆ คนตักเตือน เขาคล้ายๆ ว่าสอนว่าจริงๆ มันมี 4 5 6 7 8 เราก็เออจริงด้วย ทั้งๆ ที่เราก็นึกว่าเราอายุมากแล้ว ก็น่าจะรู้เยอะ กลายเป็นเข้าใจเลยว่าจริงๆ เรารู้น้อยมาก ก็เลยขอโทษ และพยายามศึกษาเรียนรู้ให้มากขึ้นครับ”

 

เราต้องระวังมากขึ้นไหมในการที่จะโพสต์อะไร

“ผมว่าก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่อยู่ในแสงสว่างมั้งครับ ที่อาจจะต้องคิดมากกว่าปกตินิดนึง ว่าจะโพสต์จะพูดอะไร”

 

กับคอมเมนต์ที่แย่ๆ เรารู้สึกยังไง?

“ก็ขอบคุณทุกคอมเมนต์เลยครับไม่ว่าจะดีจะแย่ เพราะเราไม่รู้ตัวเองหรอกจนกว่าจะมีคนบอกเราว่าเราเป็นยังไง จนคนบอกว่ามันไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้นะ คือรับเต็มที่เลยครับ เราเข้าใจเลย เราโลกแคบเกินไปจริงๆ ครับ”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ