พุทธศักราช 2565 ประเทศไทยมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ เกิดขึ้น บางเหตุการณ์ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ สภาพจิตใจ และความรู้สึกประชาชนอย่างมาก

กรุงเทพโพลสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ที่สุดแห่งปี 2022” เก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ พบว่าร้อยละ 71.8 ระบุเหตุกราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู เป็นสถานการณ์ที่สร้างการจดจำแห่งปี

รองลงมาคือ การเสียชีวิตของดาราชื่อดัง แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ร้อยละ 42.3 สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย ร้อยละ 34.5 ผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้รับเลือก ร้อยละ 33.4 และกัญชากัญชงพ้นจากยาเสพติด ร้อยละ 31.4

เหตุการณ์และสถานการณ์ที่อยู่ในความสนใจและทรงจำแห่งปีครั้งนี้ จะต้องถอดบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีก หรือเกิดขึ้นแล้วจะลดได้อย่างไร

ช่วงเดือนธันวาคม 2565 มีเหตุการณ์ที่สร้างความห่วงใยแก่ชาวไทย ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี เมื่อสำนักพระราชวังแถลงการณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวรหมดพระสติ ด้วยอาการทางพระหทัย เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565

แถลงการณ์ฉบับที่สอง สรุปความว่า พระอาการโดยรวมคงที่ในระดับหนึ่ง จังหวะการเต้นของพระหทัยควบคุมได้ด้วยพระโอสถ ผลการตรวจพระหทัย พบว่ายังบีบตัวได้ไม่ดีเท่าที่ควร ผลการฉีดสีของหลอดเลือดพระหทัยไม่พบความผิดปกติ คณะแพทย์ได้ถวายพระโอสถและเครื่องมือเพื่อช่วยการทำงานของพระหทัย พระปัปผาสะ พระวักกะ และติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิด

สำนักพระราชวัง จัดสถานที่ลงนามถวายพระพรชัยมงคล เพื่อให้ทรงหายจากประชวรและมีพระพลานามัยแข็งแรงโดยเร็ววัน ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ชาวไทยทั่วประเทศและทั่วโลกต่างร่วมกันแสดงความจงรักภักดี และห่วงใย ด้วยการประกอบกิจกรรมทางศาสนา และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพื่อถวายพระพรชัยมงคลอย่างพร้อมเพรียงกัน

นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์สะเทือนขวัญและสร้างความสูญเสียใหญ่หลวงช่วงปลายปี คือ การล่มอับปางของเรือหลวงสุโขทัย กลางอ่าวไทย เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565

กำลังพลที่ไปร่วมภารกิจของโดยเรือหลวงสุโขทัยครั้งนี้ มีทั้งสิ้น 106 นาย ช่วยเหลือมาได้รวมทั้งสิ้น 76 นาย เสียชีวิต 6 นาย รอพิสูจน์อัตลักษณ์ 10 นาย และยังสูญหายอีก 13 นาย

เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้กองทัพเรือถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ส่วนหนึ่งคือความไม่พร้อมของเครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่มีอยู่ประจำเรือ ส่วนอื่นๆ นั้น กองทัพเรือสัญญาว่าจะเร่งสอบสวนข้อเท็จจริงโดยเร็ว

มีแต่การสอบสวนอย่างรอบด้าน โปร่งใส ตรงไปตรงมา เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่เท่านั้น ที่จะทำให้ได้รับความน่าเชื่อถือ กอบกู้เกียรติยศและศักดิ์ศรีของกองทัพเรือกลับคืนมา