อีสานโพล คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นและเสียงสะท้อนของประชาชนภาคอีสานล่าสุด

หลังทราบผลการเลือกตั้ง ที่พรรคก้าวไกลได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 1 และพรรคเพื่อไทยที่ครองความนิยมในภาคอีสานมานานได้คะแนนมาลำดับที่ 2

โดยสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,100 รายในพื้นที่ทั้ง 20 จังหวัดว่ามีความคิดเห็นอย่างไรต่อการที่ทั้งสองพรรคร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล

โดยสรุปพบว่าชาวภาคอีสานมีความพึงพอใจและยอมรับกับผลการเลือกตั้งที่ปรากฏออกมา แต่ไม่มั่นใจว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ตามเจตจำนงประชาชน

อีสานโพล ยังสอบถามด้วยว่าพรรคการเมืองใดบ้างที่อยากให้ร่วมรัฐบาล และพรรคการเมืองใดควรเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ถ่วงดุลและตรวจสอบ

ผลการสำรวจชี้ว่าชาวอีสานรู้สึกมีความหวัง เพราะได้เลือกตั้งส.ส.เขตและส.ส.บัญชีรายชื่อผ่านแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง

แม้ส่วนใหญ่จะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อเห็นผลการเลือกตั้งก็ยอมรับ เพราะมองว่าเป็นมติร่วมและความต้องการของคนไทยทั้งประเทศ

จึงสนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นอันดับ 1 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นอันดับ 2 ตามด้วยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นอันดับ 3 ซึ่งสอดคล้องกับผลการเลือกตั้ง

สำหรับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลนั้น พบว่าหลังพรรคก้าวไกลเชิญพรรคการเมืองต่างๆ มาร่วม กว่าร้อยละ 90 รู้สึกพึงพอใจ แต่ประเด็นนี้เป็นการสำรวจก่อนที่จะทาบทามบางพรรคเข้ามาร่วม

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลจะสามารถรวบรวมเสียงจาก ส.ว. ได้พอโหวตแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พบว่าร้อยละ 60 คิดว่าไม่น่าจะได้เสียงเพียงพอ และร้อยละ 40 ยังมีความหวังว่าน่าจะมี ส.ว. มาช่วยโหวตให้

นอกจากนี้ ยังพบว่าร้อยละ 80 ว่าอยากได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจากการยกร่างของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งด้วย เนื่องจากเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่เอื้อต่อระบอบประชาธิปไตย

อาจเป็นความกังวลต่อกรณีวุฒิสภาที่ยังมีอำนาจร่วมลงมติแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและอาจไม่ทำตามเสียงที่สะท้อนผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งสมาชิกสภาสูงต้องตระหนักและไม่ควรฝืนสวนทางกับความรู้สึกประชาชน