นับเป็นเหตุการณ์ใหญ่ เป็นความสูญเสียที่น่าเศร้าสลด กรณีเรือหลวงสุโขทัย เรือรบขนาดใหญ่ของกองทัพเรือไทยถูกคลื่นซัดจมอับปางทั้งลำกลางทะเลอ่าวไทย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ขณะเกิดเหตุมีผู้บังคับการเรือ หรือกัปตัน และทหารเรือกำลังพลในส่วนอื่นๆ รวมทั้งหมด 105 นาย ในจำนวนนี้กว่า 70 นาย ถูกช่วยเหลือขึ้นฝั่งได้ทั้งในสภาพปลอดภัยและบาดเจ็บ
ที่เศร้าคือมีกำลังพลเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ด้วย ยังเหลือกำลังพลสูญหายอีก ขณะนี้กองทัพระดมเรือรบหลายลำ และอากาศยานกู้ภัยบินสำรวจเร่งค้นหา
ท่ามกลางความหวังของผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย โดยเฉพาะครอบครัว ญาติพี่น้อง และคนใกล้ชิดของกำลังพลผู้ประสบเหตุ
หลังเกิดเหตุกองทัพเรือชี้แจงข้อสงสัยและคำถามต่างๆ ของสังคมต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะกรณีเสื้อชูชีพไม่เพียงพอกับจำนวนกำลังพลบนเรือ
โดยยืนยันทั้งเสื้อชูชีพ และห่วงยางบนเรือมีเพียงพอ แต่ด้วยคลื่นลมแรงอาจมีการกระแทกในจังหวะที่เรือดีดตัว หรือโคลงไปมาตามแรงคลื่น อาจทำให้เสื้อชูชีพหลุดได้ เพราะเป็นสถานการณ์ที่ฉุกละหุก
รวมถึงกรณีเรือรับน้ำหนักจำนวนกำลังพลเกินกว่ากำหนดหรือไม่ กองทัพเรือก็ยืนยันเรื่องจำนวนคนไม่มีผลอะไรเลยที่จะทำให้เรือล่ม อีกทั้งเรือที่จมยังสามารถรับจำนวนคนเพิ่มได้อีก
กองทัพเรือระบุสาเหตุความสูญเสียในเบื้องต้นมาจากสภาพอากาศ คลื่นลมทะเลแปรปรวนอย่างรุนแรงในรอบหลายปี
ผู้บัญชาการทหารเรือแถลงชี้แจงยืนยัน เรือยังมีประสิทธิภาพ ยังไม่หมดอายุการใช้งานที่ผ่านมาเคยไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ผ่านคลื่นลมในทะเลรุนแรงมาแล้ว
โดยในวันเกิดเหตุเรือออกลาดตระเวน และจะไปสนับสนุนภารกิจที่ จ.ชุมพร แต่ระหว่างทางเกิดคลื่นซัดรุนแรง น้ำเข้าเรือในปริมาณมาก ส่งผลให้เครื่องยนต์และระบบไฟฟ้าดับ จนนำไปสู่เหตุจมอับปาง
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้กองทัพเรือจะต้องสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุให้อย่างละเอียดเชิงลึกยิ่งขึ้น เป็นความบกพร่อง และจะต้องมีผู้รับผิดชอบหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องงบซ่อมบำรุงรักษา จัดสรรได้อย่างถูกต้องเหมาะสมแล้วหรือยัง
เพื่อคลายข้อสงสัยต่างๆ ต่อสังคม และเพื่อสร้างขวัญกำลังใจต่อกำลังพลด้วย