การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดลดความรุนแรงลงต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุขเตรียมพิจารณาปรับระดับเตือนภัยจากระดับ 3 ลดลงมาเป็นระดับ 2
เช่นเดียวกับการเดินทางเข้าประเทศ เริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ไม่ต้องกักตัวแล้ว คนไทยไม่ต้องลงทะเบียนไทยแลนด์พาส ไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเข้าประเทศ ส่วนชาวต่างชาติยังต้องลงทะเบียนไทยแลนด์พาส
พร้อมกับสถานบริการบันเทิงกลางคืนกลับมาเปิด แต่รัฐบาลยังอนุญาตให้เฉพาะพื้นที่สีฟ้าและสีเขียว รวม 31 จังหวัด ยังเหลืออีก 46 จังหวัดพื้นที่สีเหลืองต้องรอไปก่อน
ทั้งที่ผู้ประกอบการในจังหวัดกลุ่มหลังนี้ ต่างก็ต้องการโอกาสทางเศรษฐกิจเช่นกัน
ขณะเดียวกันวันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นมา ราคาพลังงานและสินค้าอุปโภคบริโภค ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตปรับราคาสูงขึ้น เริ่มจากน้ำมันดีเซลขยับเป็นลิตรละ 33 บาท แก๊สหุงต้มปรับขึ้นอีกกิโลกรัมละ 1 บาท
ข้อมูลจากสมาคมค้าส่งและปลีกไทย ระบุตั้งแต่เดือนมิ.ย. สินค้าปรับราคาขึ้นตามต้นทุนการผลิต หลังน้ำมันดีเซลและค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้น นอกจากสินค้าอื่นๆ แล้ว ล่าสุดผู้ผลิตและผู้จำหน่ายข้าวหอมมะลิบรรจุถุง จะขึ้นราคาอีก 5-10 เปอร์เซ็นต์
ส่วนสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เตรียมปรับขึ้นค่าขนส่งอีก รวมเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนพลังงาน คาดมีผลวันที่ 4-5 มิ.ย.นี้
ขณะที่การแก้ปัญหาของรัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ประชาชนยังต้องอดทน อยู่อย่างกระเบียดกระเสียรต่อไป
การเปิดประเทศ เปิดสถานบริการบันเทิงกลางคืน 31 จังหวัด เพื่อมุ่งหวังเศรษฐกิจฟื้นตัว แต่ด้วยราคาพลังงานและสินค้าแพง จึงเกิดคำถามต่อมาตรการผ่อนปรนยังไม่เพียงพอ เพราะในเมื่อค่าครองชีพยังสูงต่อเนื่อง
มีข้อท้วงติงและข้อเสนอ ทั้งจากพรรคฝ่ายค้าน ผู้ประกอบการธุรกิจบันเทิงกลางคืน ร้านค้า ร้านอาหาร กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว เรียกร้องให้เปิดบริการได้มากขึ้น หรือทดลองนำร่องเปิดแบบ 24 ชั่วโมง
รวมถึงยกเลิกระบบไทยแลนด์พาสสำหรับชาวต่างชาติ และยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากกระทบต่อความเชื่อมั่น และการซื้อประกันของนักท่องเที่ยว
ทั้งหลายเหล่านี้เพื่อเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ การทำมาหากินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่ามกลางที่รัฐบาลยังแก้ปัญหาค่าครองชีพสูงไม่ได้