ช่วงฤดูหนาวในประเทศไทย ระหว่างเดือนปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี พื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ มีภูมิอากาศหนาวเย็นต่ำกว่า 20 องศา
ประชาชนบางกลุ่มนิยมดื่มสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเชื่อว่าทำให้ร่างกายอบอุ่น ต่อสู้และทนทานกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บได้
ที่ผ่านมา มักมีข่าวว่าประชาชนชาวไทยเสียชีวิตจากการดื่มสุราด้วยความเชื่อที่ผิดๆ นี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ ที่เป็นโอกาสออกไปท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวในต่างจังหวัด
ส่วนใหญ่มักดื่มสุราโดยไม่มีส่วนผสมและเจือจาง ทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน ประกอบกับอากาศหนาว จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เสียชีวิตโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
กรมการแพทย์ได้ย้ำเตือนว่าเป็นการดื่มสุราแก้หนาว เป็นความเชื่อที่ผิด และอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะระยะแรกหลังการดื่ม หลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังจะขยายตัว ทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นเพียงชั่วครู่เท่านั้น
จากนั้นร่างกายจะเริ่มระบายความร้อนมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลง นำไปสู่ความเสี่ยงภาวะไฮโปเทอร์เมีย หรือร่างกายมีอุณหภูมิลดต่ำเกิน
ส่งผลให้อวัยวะในร่างกายเสียหาย โดยเฉพาะหัวใจและสมอง ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ และเกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงตามมา
สำหรับรายที่ดื่มปริมาณมาก แอลกอฮอล์จะออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ทำให้ง่วง ซึม อาจหลับไปท่ามกลางอากาศหนาวเย็น หากไม่มีเครื่องนุ่งห่มให้ความอบอุ่นไม่เพียงพอ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเสียชีวิต
นอกจากนี้ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) ระบุว่า การดื่มสุราคลายหนาวเย็นเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง และส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ที่ดื่มอย่างมาก
ทางที่ดีควรเตรียมร่างกายและดูแลสุขภาพให้พร้อมด้วยการสวมเสื้อผ้าหนา สวมถุงมือ ถุงเท้า และสวมหมวกให้เพียงพอกับความอบอุ่น กินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เน้นผักและผลไม้มีวิตามินป้องกันโรคหวัด
การดื่มน้ำอุ่นและเครื่องดื่มอุ่นๆ สามารถบรรเทาความหนาวได้ ถ้าหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็กระตุ้นให้ร่างกายได้รับความอบอุ่นภายใน มีสุขภาพแข็งแรง
การอาบน้ำอุ่นแทนน้ำเย็นก็สามารถช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้เป็นปกติได้ ดีกว่าการดื่มสุราที่เชื่อว่าเป็นการสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตฉับพลัน