นอกจากบรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งส.ส.ทั่วประเทศ ในช่วงนี้ยังมีการตรวจเลือกทหารกองประจำการ ซึ่งมีเป็นประจำทุกปีตลอดเดือนเม.ย. หรือฤดูเกณฑ์ทหาร
แต่มีเรื่องเศร้าสลดเกิดขึ้นที่ จ.อุดรธานี เมื่อไม่กี่วันก่อน หนุ่มอายุ 21 ปี เป็นบุคคลอายุครบเกณฑ์คัดเลือกทหาร ตัดสินใจจบชีวิตด้วยการใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง
จากการสอบสวนพ่อแม่และญาติให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังจะพาไปตรวจคัดเลือกทหาร แต่ผู้เสียชีวิตไม่อยากไป จึงพยายามพูดเกลี้ยกล่อม แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายตัดสินใจจบชีวิต
สร้างความเศร้าสลดแก่ครอบครัว และเสียดายชีวิตวัยหนุ่มที่จะเป็นกำลังสำคัญต่อไปในอนาคต
ทหารเป็นอาชีพมีเกียรติ มีความสำคัญ เพราะมีหน้าที่ป้องกันอธิปไตยของชาติ ป้องกันพื้นที่ตามแนวชายแดน รวมถึงสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติร้ายแรงต่างๆ
แต่ระยะหลังทหารถูกนำมาใช้ในภารกิจอื่นจนเกินขอบเขตที่ควรเป็น อีกทั้งบริบทต่างๆ ของสังคม และกับประเทศเพื่อนบ้านรายล้อมก็เปลี่ยนแปลงไปมาก สังคมจึงเรียกร้องให้ปฏิรูปกองทัพ รวมถึงการเกณฑ์ทหารด้วยเช่นกัน
โดยเสนอให้เป็นไปอย่างสมัครใจมากกว่าการบังคับ โดยเฉพาะคนวัยหนุ่ม 20-21 ปี เป็นช่วงอายุที่สุกสกาว เต็มเปี่ยมด้วยพลัง เป็นจุดเริ่มต้นการทำมาหากิน สร้างเนื้อสร้างตัว เพื่อเป็นกำลังหลักของครอบครัว หรือบางรายที่ยังคงมุ่งมั่นเรียนหนังสือ แสวงหาความรู้ เติมเต็มความใฝ่ฝัน
มองในแง่นี้ ย่อมรู้สึกว่าทำไมต้องมาเสียเวลา 2 ปีกับการเป็นทหาร บางรายต้องไปเป็นคนรับใช้ทหารเจ้านาย บางรายถูกลงโทษเกินกว่าเหตุ ดังที่เคยปรากฏเป็นข่าวอยู่เนืองๆ
ในการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.2566 หลายพรรคการเมืองหาเสียงนำเสนอนโยบายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร
โดยส่วนใหญ่เสนอให้เป็นการเกณฑ์แบบสมัครใจมากกว่า เพื่อจะได้บุคคลที่ต้องการเป็นทหารจริงๆ และยังไม่เป็นภาระงบประมาณ ที่จะนำไปเพิ่มสวัสดิการ ปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของทหารชั้นผู้น้อย
รวมถึงการลดขนาดกองทัพ จำนวนนายพล และกำลังพลที่มากจนเกินไป แต่เน้นการปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัย และตัดงบประมาณที่สิ้นเปลือง เป็นต้น
นโยบายปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร จะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งนำไปสู่การตัดสินใจของประชาชนในวันเข้าคูหาเลือกตั้ง