คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

อย่าลืมบทเรียน

การระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงมีอิทธิพลให้สถานการณ์ต่างๆ พลิกผัน อยู่ขณะนี้ โดยเฉพาะฝั่งชาติตะวันตกที่เข้าสู่ฤดูหนาว และทำให้กระทบเทศกาลคริสต์มาสต่อเนื่องอีกปี ส่วนไทยแม้อยู่ในโซนใต้เส้นศูนย์สูตร ยังต้องระมัดระวัง เพราะมีบทเรียนสาหัสตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนจนเกิดโศกนาฏกรรมหลายชีวิต ไม่ว่าโควิด-19 จะเป็นเชื้อไวรัสที่กระจอกหรือไม่ ยังต้องอาศัยเวลาและมาตรการควบคุมป้องกันไปอีกพักใหญ่ กว่าเชื้อจะลดระดับลงเป็นโรคประจำถิ่น หรือโรคติดต่อทั่วไป ฉะนั้นท่าทีของรัฐบาลที่แสดงออกในเรื่องนี้จึงควรระมัดระวังและประเมินผลที่จะตามมาให้ดี เหตุการณ์จลาจลในเรือนจำจังหวัดกระบี่ รวมถึงการพบคลัสเตอร์การระบาดในเรือนจำของจังหวัดอื่นๆ เป็นสัญญาณเตือนว่า ถึงอย่างไรโควิด-19 ยังทรงอิทธิพลสูงต่อวิถีชีวิตประชาชน หากเกิดความไม่เข้าใจกัน เพราะการสื่อสารไม่ดี หรือการจัดการไม่ดี จะยิ่งเสี่ยงให้เกิดความขัดแย้ง และอาจนำไปสู่ความรุนแรงที่ไม่ควรเกิดขึ้น แม้ว่ากรณีจลาจล เจ้าหน้าที่ระบุว่า ความกลัวหรือหวาดผวาโรคโควิด-19 อาจเป็นเพียงข้ออ้างให้ก่อเหตุ โดยยืนยันว่ามีมาตรการควบคุมและรักษาโควิดที่พร้อมอยู่แล้ว แต่สถานการณ์การระบาดและการคัดแยกผู้ป่วยก็เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องเร่งปฏิบัติและสื่อสารให้เข้าใจทั่วกัน แม้รัฐบาลมีเป้าหมายและความพยายามอย่างยิ่งที่จะเปิดประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่การแสดงออกถึงความมั่นใจ รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่น ควรอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่รอบด้าน และควรประเมินผลกระทบให้ดี โดยเฉพาะความรู้สึกของประชาชน เพราะถึงอย่างไรความสูญเสียในสถาน การณ์โควิด-19 ทั้งจากตัวโรค ความล่าช้า ในการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึง และผลกระทบของมาตรการ เป็นเรื่องสะเทือนใจไปทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งต้องใช้เป็นบทเรียนต่อไปข้างหน้าอีกยาวนาน ในที่นี้รวมถึงความผิดพลาดในการบริหารจัดการของรัฐบาลด้วย