กลุ่มผู้ประกอบการสถานบริการบันเทิงเคลื่อนไหวอีกครั้ง เรียกร้องรัฐบาลทบทวนคำสั่งและผ่อนปรน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้ สอดคล้องกับนโยบายเปิดประเทศที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.
โดยเสนอให้อนุญาตในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 28 จังหวัด แบ่งเป็น 16 จังหวัดเปิดบริการได้ทั่วทุกพื้นที่ และ 12 จังหวัดเปิดบางพื้นที่ แต่ทั้งหมดต้องผ่านการประเมินความปลอดภัยโควิด
เริ่มเปิดทดลองวันที่ 1-30 มิ.ย. จากนั้นจะประเมินว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดมากน้อยแค่ไหน หากควบคุมได้ก็จะขอเปิดอย่างเต็มรูปแบบทุกพื้นที่วันที่ 1 ก.ค.
เป็นข้อเสนอของกลุ่มผู้ประกอบการ คาดหวังว่ารัฐบาลจะพิจารณาทบทวนด้วย
นับตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิดนานกว่า 2 ปีแล้ว ทำให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ การค้าขาย และกิจการต่างๆ ไม่สามารถเปิดได้ตามปกติ
โดยเฉพาะสถานบริการบันเทิงเป็นกิจการลำดับแรกที่ต้องปิดตัว เนื่องจากลักษณะกิจการสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรค เกิดเป็นคลัสเตอร์หลายแห่งดังที่ปรากฏก่อนหน้านี้
ขณะที่การช่วยเหลือเยียวยานอกจากจะน้อยนิดแล้ว กลุ่มสถานบันเทิงยังได้รับการดูแลเป็นลำดับท้ายๆ และการที่ต้องปิดตัวตามมาตรการของรัฐบาล ทำให้พนักงานตกงาน 100 เปอร์เซ็นต์
แม้อาจจะได้กลับมาเปิด แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจในขณะนี้ จะเหลืออีกกี่รายที่ยังเหลือเงินทุนสายป่านเพียงพอลงทุนได้อีกครั้ง
ด้วยสภาพปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลสืบเนื่องจากเศรษฐกิจที่ดิ่งทรุดมาตั้งแต่รัฐประหาร ขาดความเชื่อมั่นจากต่างชาติ รัฐบาลเองก็มีประสิทธิภาพไม่เพียงพอในการรับมือเศรษฐกิจประเทศ
จนกระทั่งมาซ้ำเติมด้วยโควิดและสงคราม ส่งผลให้ราคาพลังงานต่างๆ สูงขึ้น ค่าบริการ ค่าขนส่งขยับขึ้นตาม กระทบเป็นลูกโซ่ถึงสินค้าอุปโภคบริโภคแพงแทบทุกชนิด
ทำให้ค่าครองชีพประชาชนสูงขึ้น แต่รายได้เท่าเดิม หรือบางรายลดลงด้วยซ้ำ ขณะที่รัฐบาลดูเหมือนแก้ปัญหาไม่ทัน ประชาชนต้องอดทนประคับประคองกันไปตามยถากรรม
การผ่อนปรนสถานบันเทิงจะเป็นการเพิ่มโอกาส และทางเลือกสำหรับการทำมาหากินของประชาชนในท่ามกลางค่าครองชีพสูง และสินค้าต่างๆ แพงมากเป็นประวัติการณ์