จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ต่อกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร ถ่ายภาพแอร์โฮสเตสขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่บนเครื่องบิน แล้วนำมาโพสต์ด้วยข้อความไม่เหมาะสม
ขณะที่เจ้าตัวออกมาชี้แจงไม่ได้ประสงค์ร้าย เป็นการถ่ายรูปการทำงานทั่วไปของแอร์โฮสเตส ไม่ทำให้เสียหาย ไม่มีเจตนาคุกคามทางเพศ แต่ถ้าสังคมมองว่าไม่ดี ก็จะระมัดระวังมากขึ้น และถือเป็นบทเรียน
แม้จะออกมาชี้แจง แต่กระแสเรียกร้องและกดดันยังมีอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดอธิการบดีทำหนังสือแจ้งไปยังสภามหาวิทยาลัย ขอลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ
โดยระบุถึงผลกระทบต่อภาพพจน์มหาวิทยาลัย และเพื่อเป็นการดีต่อทุกฝ่าย
ก่อนหน้านี้ กลุ่มนักศึกษาประชาคมในมหาวิทยาลัยศิลปากร รวมถึงเครือข่ายองค์กรด้านผู้หญิง ความเป็นธรรมทางเพศ รวม 21 องค์กร กลุ่มคณาจารย์ ศิษย์เก่า และปัจจุบัน ยื่นหนังสือต่อสภามหาวิทยาลัยให้ตั้งกรรมการสอบสวน
นอกจากเหตุการณ์จะเกิดขึ้นขณะเดินทางไปปฏิบัติราชการแล้ว ยังอาจเข้าข่ายความผิดจรรยาบรรณบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
การประกาศลาออกจากตำแหน่ง ดูเหมือนจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง แต่ในเรื่องจริยธรรม การแสดงพฤติกรรมถูกเผยแพร่ไปทั่ว และกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม
โดยเฉพาะบุคคลระดับอธิการบดีมหาวิทยาลัย จึงถือเป็นเรื่องใหญ่
ต่อมากลุ่มนักศึกษายื่นหนังสือถึงสภามหาวิทยาลัยอีกครั้ง โดยชี้ถึงเหตุผลและตั้งข้อสังเกตทำนองว่า อาจมีผลไม่ต้องเข้ารับการสอบสวนหรือไม่
จึงเรียกร้องไปยังสภามหาวิทยาลัยให้ยับยั้งการขอลาออก เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวน จนกว่าจะมีผลการสอบสวน และคำวินิจฉัยที่ชี้แจงต่อสาธารณชนอย่างละเอียดและโปร่งใส
นอกจากนี้ ยังเพื่อสร้างความมั่นใจต่อนักศึกษา บุคลากรมหาวิทยาลัย และสาธารณชน ทั้งเพื่อให้ภาพพจน์มหาวิทยาลัยสง่างาม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสอบสวนอย่างเร่งด่วน โปร่งใส และเป็นธรรม
จากข้อท้วงติงและเรียกร้อง ถึงเวลาที่สภามหาวิทยาลัยต้องคำนึงถึงภาพพจน์ ต้องสอบสวนอย่างจริงจัง เพื่อแสดงความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน