การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสุดท้ายของวาระสภาชุดนี้เมื่อวันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน มีปัญหาสมาชิกอยู่ในที่ประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่ง
ทำให้ประธานที่ประชุมต้องสั่งปิดการประชุมโดยปริยาย ถือเป็นการล่มดำเนินการต่อไม่ได้ เพราะมีสมาชิกไม่ครบองค์เป็นครั้งแรกในสมัยประชุมนี้
ฟังจากเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่อภิปราย ระบุว่าในช่วงวันศุกร์จะต้องรีบไปลงพื้นที่ อีกทั้งเที่ยวบินในประเทศมักจะบินเวลาประมาณ 14.00 น.
จึงทำให้การประชุมประสบปัญหา เพราะสมาชิกมีภารกิจร่วมกับประชาชน ประกอบกับช่วงนี้มีงานประเพณีทอดกฐินด้วย ถ้าไม่ไปร่วมเกรงว่าจะไม่ได้รับเลือกตั้งในครั้งหน้า
ในปีก่อนหน้านี้ สื่อมวลชนประจำรัฐสภาตั้งฉายาสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ว่าสภาอับปาง เนื่องจากตลอดทั้งปีล่มบ่อยครั้ง เพราะสมาชิกอยู่ประชุมไม่ครบองค์
ส่งผลกระทบต่อการนิติบัญญัติ การพิจารณาญัตติ และการลงมติในเรื่องสำคัญๆ ที่ต้องเลื่อนล่าช้าออกไป
เหตุการณ์ดังกล่าวมีการกล่าวโทษกันไปกันมาระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างๆ นานา ซึ่งแต่ละฝ่ายก็มีเหตุผลของตัวเอง
ฝ่ายค้านมักอ้างว่าการนับองค์ประชุมถือเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของการควบคุมรัฐบาลในสภา และสมาชิกฝ่ายรัฐบาลต่างหากที่เป็นผู้รักษาองค์ประชุม
ดังนั้น ในสภาผู้แทนราษฎรแต่ละชุด จึงมีคณะกรรมการประสานงานทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อให้การประชุมมีความราบรื่น บังเกิดผลดีสูงสุดต่อประชาชน
เมื่อมีความเห็นที่ขัดแย้งแตกต่างกัน ก็จะนำปัญหาที่เกิดขึ้นมาพูดคุย หาจุดร่วมให้เกิดความลงตัว เพื่อให้สภาเดินหน้าทำหน้าที่ต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาชุดนี้อยู่ในช่วงปลายสมัย อาจเห็นการชิงไหวชิงพริบระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลอีกหลายครั้งหลังจากนี้
ประกอบกับพรรคร่วมรัฐบาล พรรคอันดับสองและอันดับสาม เกิดความไม่ลงรอยกัน มีการตอบโต้กันไปกันมาอย่างต่อเนื่อง ปัญหาสภาล่มน่าจะเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง ถ้าหากคุยกันไม่ลงตัว สมานประสานรอยร้าวกันไม่ได้