ปรากฏการณ์ผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะเด็ดขาด ทิ้งผู้สมัครคนอื่นๆ กว่าหนึ่งล้านคะแนนเป็นเรื่องน่าสนใจ

ล่าสุดสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของชาวกรุงเทพฯ จากกลุ่มตัวอย่างจำนวนทั้งสิ้น 1,191 คน ซึ่งพบว่าการที่นายชัชชาติชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะต้องการความเปลี่ยนแปลง ร้อยละ 69.52 รองลงมาคือ นโยบายดี น่าจะทำได้จริง ร้อยละ 43.83 และบุคลิกดี เป็นคนติดดิน เข้าถึงทุกคน ร้อยละ 42.32

นอกจากนี้ ยังเห็นว่าเป็นคนเก่ง ประวัติส่วนตัวดี และมีความรู้ความสามารถ

อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจครั้งนี้ ยังพบด้วยว่าชาวกรุงเทพฯ มองว่ามีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยในภาพใหญ่ถึงการเลือกตั้งการเมืองระดับประเทศ

แต่ผู้นำรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล ต่างออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับความนิยมที่มีต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล เพราะเป็นการเลือกตั้งเพียงจังหวัดเดียว ไม่ใช่ทั้งประเทศ

ประวัติศาสตร์การเมืองที่ผ่านมา ผลการเลือกตั้งและคะแนนเสียงของคนเมืองหลวงมักส่งผลสะเทือนถึงการเมืองระดับชาติเกือบทุกครั้งไป

บรรดาพรรคการเมืองและนักการเมือง ซึ่งไวต่อเรื่องดังกล่าว และเคยมีบทเรียนรู้แก่ใจดีทั้งสิ้น

สําหรับสิ่งที่คนกรุงเทพฯ ฝากถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ คือ ขอให้ทำตามที่หาเสียงไว้และรักษาสัญญา ร้อยละ 71.96 รองลงมาคือ แก้ปัญหาต่างๆ เช่น จราจร น้ำท่วม ร้อยละ 63.14

ผู้บริหารเมืองหลวงคนใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง จึงเป็นความหวังที่จะทำให้กรุงเทพมหานครเกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นเมืองน่าอยู่ เดินทางสะดวกสบาย และเข้าถึงสาธารณูปโภค

ที่ผ่านมา นายชัชชาติลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่การประกาศตัวลงสมัคร มีการนำเสนอนโยบายที่เด่นชัดต่อสาธารณะถึง 200 นโยบาย เมื่อชนะการเลือกตั้งก็ลงพื้นที่ต่อทันที

ขั้นตอนต่อไปคือการทำให้ความคาดหวังดังกล่าวให้เป็นจริง แปรนโยบายที่เสนอมาเป็นการกระทำอย่างจริงจัง เพื่อให้สัมผัสจับต้องได้