4 สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ประกอบด้วย สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัด, สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน จำกัด และสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย จำกัด ประกาศขึ้นราคาแนะนำไข่คละหน้าฟาร์มอีกฟองละ 10 สตางค์
ส่งผลให้ราคาขยับจากฟองละ 3.50 บาท เป็น 3.60 บาท หรือปรับขึ้นแผงละ 3 บาท สำหรับแผงละ 30 ฟอง เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. โดยให้เหตุผลเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่
ในระยะเวลาเพียงแค่ 15 วัน ไข่ไก่โปรตีนราคาถูก และอาหารจำเป็นขั้นพื้นฐานของประชาชนผู้มีรายได้น้อย ปรับขึ้นราคาถึง 2 ครั้ง คือวันที่ 2 ส.ค. ขึ้น 10 สตางค์ และครั้งล่าสุดนี้
ทำให้ไข่ไก่ยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีราคาสูงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
เช่นเดียวกับที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แจ้งขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟที อีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย เริ่มงวดเดือนก.ย.-ธ.ค.
กกพ.ให้เหตุผลและสาเหตุมาจากสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดจรที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยและพม่า ที่ปริมาณลดลง รวมถึงความผันผวนในตลาดโลก
อีกทั้งการที่หลายประเทศเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด จึงทำให้การใช้ก๊าซธรรมชาติมีมากกว่ากำลังการผลิตในตลาดโลก ส่งผลกระทบต่อราคา และการเจรจาซื้อขาย กับภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน
จึงจำเป็นต้องขึ้นค่าไฟฟ้า และเป็นค่าไฟฟ้าที่คนไทยต้องจ่ายต่อหน่วยสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่การแก้ไขปัญหานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ผู้รับผิดชอบสูงสุด อ้างถึงกติกา กฎระเบียบ และกฎหมาย
รวมไปถึงความจำเป็น สภาพคล่องของผู้ประกอบการ และการที่รัฐบาลต้องใช้งบประมาณไปอุดหนุน เพื่อให้กิจการดำเนินต่อไปได้ แต่ก็เกิดคำถามว่าได้คำนึงถึงความจำเป็น และสภาพคล่องของประชาชนด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ยังอ้างถึงหลักอริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค หลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา ให้ไปศึกษาถึงสาเหตุทำไมค่าไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภคถึงต้องขึ้นราคา
ยิ่งการยกคำพระอ้างถึงทุกข์ ยิ่งเป็นคำถามย้อนกลับ และตาสว่างยิ่งกว่าเดิม ใครเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ และประชาชนเป็นทุกข์มายาวนาน 8 ปีแล้ว