ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เตือนกรณีการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นการป่วยซ้ำจากที่เคยติดเชื้อมาแล้ว

สาเหตุของการติดเชื้อซ้ำ เนื่องจากสายพันธุ์ใหม่กลายพันธุ์ที่ต่างจากเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ภูมิที่เกิดจากการติดเชื้อก่อนหน้านี้หรือจากวัคซีนมีผลยับยั้งเชื้อได้น้อยลง

อีกทั้งระยะเวลาที่ผ่านนานไป ระดับของภูมิคุ้มกันเชื้อโรคที่มีอยู่ในร่างกายก็ลดลงไปเรื่อยๆ จึงทำให้มีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้ง่ายขึ้น

ดังนั้น ประชาชนทั่วไปจึงต้องกลับเข้มกับมาตรการป้องกันต่างๆ ที่เคยปฏิบัติมาอย่างเคร่งครัดอีกสักระยะหนึ่ง

ข้อสังเกตสำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ ปรากฏว่าผู้ติดเชื้อซ้ำเป็นผู้ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นรวมอยู่ด้วย

แต่ข่าวดีของผู้ติดเชื้อซ้ำในครั้งนี้ คือมีโอกาสป่วยอาการหนักและเสียชีวิตลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับการติดเชื้อล้มป่วยครั้งแรก

กล่าวคือโอกาสป่วยหนักปริมาณลดลงประมาณ 90% และถ้านอนรักษาตัวในโรงพยาบาล โอกาสเสียชีวิตก็ลดลงประมาณ 60%

นอกจากนี้ ยังมีแง่มุมที่ดีในสถานการณ์การระบาดสายพันธุ์ใหม่นี้ มีประชาชนตื่นตัวพากันไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มขึ้น

ล่าสุด องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้โควิดสายพันธุ์โอมิครอน BA.4 และ BA.5 เป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งมีแนวโน้มจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่จะแพร่ระบาดทั่วโลก

ขณะที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก็ระบุว่าจากการตรวจสายพันธุ์เบื้องต้นพบว่าในไทยเป็นสายพันธุ์โอมิครอน 100% โดยเป็นสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ครึ่งหนึ่ง และคาดว่าจะแทนที่ BA.2 ด้วย

ที่น่าเป็นห่วงอย่างมากในขณะนี้คือการกลับมาติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์อีก เนื่องจากสถานศึกษาต่างๆ เปิดเรียนออนไซต์แบบ 100% ทุกแห่ง รวมถึงการผ่อนปรนให้สถานบันเทิง

ดังนั้น การฉีดวัคซีนเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างทั่วถึง รวมถึงการเตรียมเวชภัณฑ์ที่มีศักยภาพป้องกันและรักษาโควิดสายพันธุ์ใหม่อย่างได้ผล จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง